บอร์ด ทอท.ยันชะลอสุวรรณภูมิเฟส 2 วงเงิน 6.2 หมื่นล้าน ดันก่อสร้างอาคาร Multi-Function Terminal วงเงิน 2.4 หมื่นล้าน เสียบแทน “ประสงค์” เผยชี้แจง “ประจิน” แล้วจี้ ทอท.สรุปรายละเอียดเสนอคมนาคมและ ครม.ปรับแผนลงทุนใหม่ แย้มกำไรปีนี้แตะ 1 หมื่นล้าน แม้ผู้โดยสารลดจากปัญหาการเมือง แต่ลดค่าใช้จ่ายช่วยได้มาก พร้อมต่อสัญญา “สามารถคอมเทค” ให้บริการระบบ CUTE อีก 5 ปี วงเงิน 2.3 พันล้าน โดยไม่ต้องประมูล แต่งตั้งโยกย้ายระดับ ผอ.ท่าอากาศยานแทนผู้เกษียณ ดัน “ประพนธ์” คุมสุวรรณภูมิ “มนฤดี” นั่ง ผอ.ท่าฯ ภูเก็ต
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด ทอท.วานนี้ (18 ก.ย.) ว่า ที่ประชุมให้ ทอท.ปรับแก้ไขรายละเอียดในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554-2560) ไปพร้อมกับการเสนอ
โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ (Multi-Function Terminal) ทางด้านทิศเหนือของอาคารเทียบเครื่องบิน A วงเงิน 24,000 ล้านบาท ไปตามขั้นตอนการขออนุมัติโครงการ เพื่อให้มองเห็นภาพความเชื่อมโยงในการดำเนินการและการแก้ไขปัญหาผลกระทบในการรองรับอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นของผู้โดยสารและเที่ยวบินอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ทอท.มีความชัดเจนว่าจะชะลอโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 วงเงิน 62,000 ล้านบาทไว้ก่อน เพราะคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ได้แจ้งเป็นการเบื้องต้นมายัง AOT แล้วว่าต้องมีการปรับปรุงแผนหลายเรื่อง เช่น สเปก ราคา ความคุ้มค่าในการลงทุน ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปีในการทบทวนแผน และแนะนำให้ ทอท.เตรียมทางเลือกอื่นไว้ด้วย และเบื้องต้นได้รายงานความคืบหน้าเรื่องชะลอเฟส 2 ต่อ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม รับทราบแล้ว โดยได้สั่งให้ ทอท.ทำหนังสือรายงานให้ชัดเจน จึงจะพิจารณาให้ว่าเห็นสมควรหรือไม่
นอกจากนี้ ยังให้ ทอท.ศึกษาเพิ่มเติมในประเด็นการทำหลุมจอดระยะไกล (Remote Parking) จำนวน 28 หลุมจอด ซึ่งอยู่ในแผนการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 วงเงินประมาณ 9,000-10,000 ล้านบาท ในพื้นที่ที่จะก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังรอง (Satellite) ได้ก่อนหรือไม่ เพื่อลดความแออัดส่วนหนึ่ง และกรณีที่เพิ่มหลุมจอดรับ A380 ไม่ได้จะปรับปรุงหลุมจอดที่มีอยู่เดิมทดแทนได้หรือไม่ ซึ่งปัจจุบันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมี 120 หลุมจอด จะเพิ่มเป็น 148 หลุมจอด เท่ากับเฟส 2 ที่มีอาคารผู้โดยสารเพิ่มและสามารถรับผู้โดยสารเป็น 60 ล้านคนต่อปี แต่ก่อสร้างได้เร็วกว่าแผนเฟส 2 ประมาณ 1 ปี และใช้เงินลงทุนน้อยกว่าอีกด้วย
และศึกษาการก่อสร้างทางวิ่ง (รันเวย์) สำรอง ความยาว 2,900 เมตร เพื่อใช้กรณีต้องปิดซ่อมแซมทางวิ่งและรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยยืนยันว่าจะไม่ใช้ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งต้องเร่งดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้เสร็จสิ้น โดยให้รายงานผลสรุปการศึกษาทั้ง 3 แผนงานต่อที่ประชุมบอร์ดเดือนตุลาคมเพื่อนำเสนอต่อกระทรวงคมนาคม และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติปรับแผนการลงทุน
พร้อมกันนี้ ได้เห็นชอบให้ ทอท.จ้างเหมาบริษัท สามารถคอมเทค จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรายเดิมโดยวิธีพิเศษ ในการให้บริการและบำรุงรักษาระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (CUTE) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวงเงิน 2,155.58 ล้านบาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เป็นเงิน 150.89 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 2,306.47 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 เนื่องจากสัญญาเดิมระยะเวลา 5 ปี (1 ตุลาคม 2552 ถึง 30 กันยายน 2557) วงเงินค่าจ้างรวมทั้งสิ้น 2,281.77 ล้านบาท ครบกำหนด ทั้งนี้ เพื่อให้การให้บริการระบบ CUTE เป็นไปอย่างต่อเนื่อง รองรับช่วง High Season ได้ทัน เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ ทอท. และสายการบิน
นายประสงค์กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2557 (ต.ค. 56-ก.ย. 57) คาดว่าจะมีกำไรที่ 10,000 ล้านบาท แม้ปริมาณผู้โดยสารจะลดลงในช่วงที่เกิดปัญหาทางการเมือง แต่ ทอท.ได้ใช้มาตรการควบคุมค่าใช้จ่าย ด้วยการชะลอรายการซ่อมบำรุงที่ยังไม่จำเป็นออกไปก่อนจึงสามารถพยุงผลกำไรให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจได้
นอกจากนี้ บอร์ด ทอท.ได้มีมติแต่งตั้งผู้บริหารแทนตำแหน่งที่เกษียณอายุ ประกอบด้วย 1. นาวาอากาศเอก กันต์พัฒน์ มังคละศิริ รองผู้อำนวยท่าอากาศยานภูเก็ต (สายปฏิบัติการและบำรุงรักษา) ไปดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานมาตรฐาน ท่าอากาศยานและการบิน) 2. นายประวิทย์ ฉายสุวรรณ ที่ปรึกษา 10 ทอท.ไปดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง) 3. นายวิชัย บุญยู้ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด) ไปดำรงตำแหน่ง ผู้เชี่ยวชาญ 10 ทอท. และรักษาการ รองกรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด) 4. นาวาอากาศเอก สมัย จันทร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานท่าอากาศยานภูมิภาค)
และแต่งตั้งผู้อำนวยการท่าอากาศยาน ประกอบด้วย 1. นายประพนธ์ ปัทมกิจสกุล รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายการพาณิชย์) ไปดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 2. นางมนฤดี เกตุพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักกิจการต่างประเทศ ไปดำรงตำแหน่ง ผู้เชี่ยวชาญ 10 ทอท. และรักษาการ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต 3. นาวาอากาศเอก วิสูธ จันทนา รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต (สายสนับสนุนธุรกิจ) ไปดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ 4. นายเจษฎา เพชรเม็ดใหญ่ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ด้านสนับสนุนธุรกิจ) ไปดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่ และ 5. นายอิทธิพล บุญอารีย์ ผู้เชี่ยวชาญ 10 ทอท. ไปดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย