นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท.รับทราบการศึกษาแนวทางการใช้ประโยชน์ของอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ที่จะก่อสร้างบริเวณด้านทิศเหนือของอาคารเทียบเครื่องบิน A โดยกำหนดให้อาคารผู้โดยสารหลังใหม่รองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ และภายในประเทศพร้อมๆ กัน และมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนสิ่งอำนวยความสะดวกภายในอาคาร โดยให้ ทอท.ศึกษาประเด็นต่างๆ คือในระหว่างที่ดำเนินการทบทวนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามมติของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั้น ให้ ทอท.ไปศึกษาว่า พื้นที่ที่จะก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังรอง จะสามารถทำเฉพาะหลุมจอดระยะไกลได้ก่อนหรือไม่ เพื่อเป็นการแบ่งเบาความแออัดของหลุมจอดไปพลางก่อน และในกรณีที่มีผลกระทบไม่สามารถเพิ่มหลุมจอดอากาศยานขนาดใหญ่รองรับ A380 ได้นั้น ให้พิจารณาด้วยว่าควรจะต้องปรับปรุงหลุมจอด ที่มีอยู่เดิมให้สามารถรองรับ A380 เพิ่มได้อย่างไร เมื่อมีการทบทวนโครงการพัฒนา ทสภ.ให้เป็นไปตามความเห็นของ คตร.แล้วให้พิจารณาเงื่อนไขการว่าจ้างกลุ่มบริษัท EPM ให้สอดคล้องกับการทบทวนโครงการด้วย
นอกจากนี้ ให้ ทอท.ปรับแก้ไขรายละเอียดในโครงการ (ปีงบประมาณ 2554-2560) ไปพร้อมกับการเสนอโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ทางด้านทิศเหนือของอาคารเทียบเครื่องบิน A ไปตามขั้นตอนการนำเสนอขออนุมัติโครงการ เพื่อให้มองเห็นภาพความเชื่อมโยงในการดำเนินการและการแก้ไขปัญหาผลกระทบในการรองรับอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นของผู้โดยสารและเที่ยวบินอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ทอท.จะเร่งศึกษาและดำเนินการก่อสร้างทางวิ่งสำรอง ความยาว 2,900 เมตร เพื่อใช้เป็นทางวิ่งสำรอง ในกรณีซ่อมแซมทางวิ่งและรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินอื่นๆ ตลอดจนกรณีจำเป็นตามมาตรการความปลอดภัยทางการบินของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยไม่ใช้ประโยชน์ในทางพาณิชย์ โดยให้สอดคล้องกับการพัฒนาท่าอากาศยานในอนาคตและให้คำนึงถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการก่อสร้าง เพื่อป้องกันการซึมของน้ำใต้ดินที่จะทำให้ทางวิ่งเกิดความชำรุดเสียหายเหมือนกับทางวิ่งเส้นที่ 1 และ 2 และให้ ทอท.ดำเนินการปรับแนวทางการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในอนาคต
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ทอท.เห็นชอบในหลักการให้ ทอท.และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันดำเนินการด้าน CSR โครงการลู่ปั่นจักรยานโดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นความร่วมมือที่ไม่แสวงหาผลกำไรและคำนึงถึงประโยชน์ต่อชุมชน และสังคมเป็นหลัก พร้อมเห็นชอบให้ ทอท. จ้างเหมาเอกชนให้บริการและบำรุงรักษาระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยวิธีพิเศษ จากบริษัท สามารถคอมเทค จำกัด มีกำหนดระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 ในวงเงิน 2,306,477,758.30 บาท
นอกจากนี้ ให้ ทอท.ปรับแก้ไขรายละเอียดในโครงการ (ปีงบประมาณ 2554-2560) ไปพร้อมกับการเสนอโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ทางด้านทิศเหนือของอาคารเทียบเครื่องบิน A ไปตามขั้นตอนการนำเสนอขออนุมัติโครงการ เพื่อให้มองเห็นภาพความเชื่อมโยงในการดำเนินการและการแก้ไขปัญหาผลกระทบในการรองรับอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นของผู้โดยสารและเที่ยวบินอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ทอท.จะเร่งศึกษาและดำเนินการก่อสร้างทางวิ่งสำรอง ความยาว 2,900 เมตร เพื่อใช้เป็นทางวิ่งสำรอง ในกรณีซ่อมแซมทางวิ่งและรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินอื่นๆ ตลอดจนกรณีจำเป็นตามมาตรการความปลอดภัยทางการบินของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยไม่ใช้ประโยชน์ในทางพาณิชย์ โดยให้สอดคล้องกับการพัฒนาท่าอากาศยานในอนาคตและให้คำนึงถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการก่อสร้าง เพื่อป้องกันการซึมของน้ำใต้ดินที่จะทำให้ทางวิ่งเกิดความชำรุดเสียหายเหมือนกับทางวิ่งเส้นที่ 1 และ 2 และให้ ทอท.ดำเนินการปรับแนวทางการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในอนาคต
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ทอท.เห็นชอบในหลักการให้ ทอท.และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันดำเนินการด้าน CSR โครงการลู่ปั่นจักรยานโดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นความร่วมมือที่ไม่แสวงหาผลกำไรและคำนึงถึงประโยชน์ต่อชุมชน และสังคมเป็นหลัก พร้อมเห็นชอบให้ ทอท. จ้างเหมาเอกชนให้บริการและบำรุงรักษาระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยวิธีพิเศษ จากบริษัท สามารถคอมเทค จำกัด มีกำหนดระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 ในวงเงิน 2,306,477,758.30 บาท