บางจากตั้งเป้าปริมาณการขายน้ำมันผ่านปั๊มโต 10% หลังจากปีนี้พลาดเป้าเล็กน้อย แต่ยังรั้งส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 รองจาก ปตท.ได้ พร้อมทั้งเร่งขยายมินิ บิ๊กซี โดยเจรจาบิ๊กซีไฟเขียวขยายมินิมาร์ทในรูปแฟรนไชซีแทน และลดขนาดร้านให้เล็กลงเพื่อขยายไปสู่ปั๊มสหกรณ์ด้วย
นายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านธุรกิจการตลาด บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายปริมาณการขายน้ำมันผ่านสถานีบริการบางจากเติบโตขึ้น 10% จากปีนี้ที่คาดว่ามีปริมาณการขายปลีกน้ำมันเฉลี่ยที่ 250 ล้านลิตรต่อเดือน โดยบางจากจะใช้เงินลงทุน 1 พันล้านบาทในการขยายสถานีบริการน้ำมันใหม่เพิ่มขึ้นในปีหน้าจำนวน 40 แห่ง โดยครึ่งหนึ่งเป็นการลงทุนของบางจากเองทั้งหมด ที่เหลือเป็นการลงทุนโดยดีลเลอร์
นอกจากนี้ บริษัทฯ เร่งขยายร้านบิ๊กซี มินิมาร์ทในปั๊มและธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non Oil) เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งขณะนี้บางจากอยู่ระหว่างการเจรจากับ บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์เพื่อขยายมินิมาร์ท “มินิ บิ๊กซี” จากเดิมที่บิ๊กซีฯ เป็นผู้ลงทุนเองในรูปแบบแฟรนไชซี (Franchisee) โดยให้ดีลเลอร์เจ้าของปั๊มน้ำมันบางจากเป็นผู้ลงทุนเอง ซึ่งจะทำให้การขยายมินิ บิ๊กซีในปั๊มบางจากเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยวางเป้าหมายขยายให้ได้เป็น 150 แห่งจากปีนี้อยู่ที่ 80 แห่งทั่วประเทศ
นอกจากนี้ยังได้หารือกับบิ๊กซีฯ ในการทำร้านมินิมาร์ทให้มีขนาดเล็กลงเหมาะกับปั๊มสหกรณ์บางจากด้วยเพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อของชุมชนในพื้นที่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปลายปีนี้ หากการเจรจาบรรลุข้อตกลง ร้านมินิมาร์ทเดิมในปั๊มสหกรณ์บางจากก็จะเปลี่ยนชื่อ และมีการบริหารงานแบบมืออาชีพมากยิ่งขึ้น
นายพงษ์ชัยกล่าวถึงน้ำมันในปั๊มบางจากช่วงไตรมาส 3/2557 ว่า ปริมาณการขายน้ำมันปลีกผ่านปั๊มบางจากในไตรมาส 3 นี้เติบโตขึ้น 5-7% เมื่อเทียบจากปีก่อน และคาดว่าไตรมาสนี้ยอดขายน้ำมันจะโตขึ้นอีก ทำให้ทั้งปีปริมาณการขายน้ำมันโตขึ้น 7% แต่ก็ยังต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ว่ายอดขายน้ำมันผ่านปั๊มจะขยายตัว 10% ทั้งนี้เนื่องจากครึ่งปีแรกปริมาณการขายน้ำมันโตน้อยมาก จากปัจจัยลบด้านการเมืองและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง แต่ครึ่งปีหลังนี้ปัญหาการเมืองในประเทศคลี่คลายไปทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเติบโตขึ้น
แม้ว่าปริมาณการขายน้ำมันในปีนี้จะโตไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ แต่บริษัทฯ สามารถรั้งส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันผ่านสถานีบริการได้เป็นอันดับ 2 รองจาก ปตท. แซงหน้าเอสโซ่ ซึ่งปัจจุบันบางจากมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 15.1% ดีกว่าปีก่อนที่มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 14.8%
ส่วนการขยายปั๊มน้ำมันบางจากในประเทศเพื่อนบ้านนั้นคงต้องชะลอไปก่อน โดยบางจากได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเข้ามาศึกษากฎระเบียบต่างๆ ของประเทศเพื่อนบ้านทั้งลาว กัมพูชา และพม่า ในการขยายปั๊มน้ำมันบางจาก คาดว่าจะได้ข้อสรุปใน 3 เดือนข้างหน้า โดยปีนี้บริษัทมีปั๊มน้ำมันบางจากอยู่ที่พม่าเพียง 2 แห่งเท่านั้น
ส่วนกรณีที่บางจากได้หยุดหน่วยกลั่นแลกเปลี่ยนความร้อนในหน่วยแตกโมเลกุลเป็นเวลา 10 วันหลังพบว่ามีความผิดปกติของอุปกรณ์นั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อการจำหน่ายน้ำมันบางจาก เนื่องจากมีการเก็บสต๊อกน้ำมันสำเร็จรูปไว้เพียงพอต่อความต้องการอยู่แล้ว
