“ณรงค์ชัย” เปิดนโยบายเดินหน้าปรับโครงสร้างราคาพลังงานให้เหมาะสม ส่งสัญญาณขึ้นแอลพีจีขนส่ง ดีเซลรอเวลาเตรียมขยับภาษีฯ ด้านจัดหาแผนเร่งด่วนเคาะเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ และต่ออายุแหล่งก๊าซฯ เอราวัณ บงกช ในอ่าวไทยให้ได้ในรัฐบาลชุดนี้ ควบคู่กับการเร่งเจรจาพื้นที่ปิโตรเลียมไทย-กัมพูชา
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้แถลงนโยบายของกระทรวงพลังงานวันนี้ (12 ก.ย.) ว่า จะนำนโยบายที่ได้แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงพลังงาน มาปฏิปัติโดยเฉพาะโครงสร้างราคาเชื้อเพลิงให้สอดคล้องต่อต้นทุนกับภาระภาษีที่เหมาะสม โดยหลักการคือ การจ่ายภาษีต้องเท่ากัน และรับภาระเท่ากัน ยกเว้นคนที่ด้อยโอกาสที่รัฐบาลจะมีการช่วยเหลือ เช่นเดียวกับกรณีก๊าซธรรมชาติคือ จะต้องไปแยกแล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุดไม่ได้เอาไปเผาอย่างเดียว
“หลักการต้องตกลงให้ได้เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ถ้าไม่มีหลักการก็จะกลายเป็นหลักกูกันหมด ก็จะลำบาก กรณีน้ำมันจะต้องมีภาษีที่เท่ากันไม่ได้ให้ใช้กันอย่างฟุ่มเฟือย ซึ่งน้ำมันดีเซลใช้กันมากแต่ราคาถูกเพราะภาษีสรรพสามิตที่ต่ำ แต่เบนซินคนใช้น้อยกลับแพง บางคนที่ใช้ก็ไม่ได้จะรวยผมคิดว่าช่วยคนที่มีรายได้น้อยจะดีกว่า พอน้ำมันบิดเบือนโรงกลั่นถูกออกแบบอยู่แล้วว่าจะต้องมีเบนซินที่เหลือก็เลยต้องส่งออกแบบดัมป์ราคานี่ก็เป็นปัญหา กรณีแอลพีจีก็เหมือนกับน้ำมะพร้าว เราต้องแยกเอาน้ำออกมา แล้วที่เหลือจะเอาไปเผายังไงก็ว่ากัน กรณีแอลพีจีไม่สนับสนุนไปใช้ในภาคขนส่ง แต่ภาคครัวเรือนจะให้เขาไปใช้อย่างอื่นไม่ได้ก็ต้องให้เขาใช้ และบางส่วนก็ต้องเอาไปเพิ่มมูลค่า” นายณรงค์ชัย กล่าว
สำหรับการจัดหาพลังงานให้เพียงพอโดยส่วนของการจัดหาพลังงานนั้นสิ่งแรกที่จะดำเนินการให้ได้ภายในรัฐบาลชุดนี้ก็คือ การพิจารณาเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 และการต่ออายุสัญญาสัมปทานที่กำลังจะหมดอายุลงในอีก 5-6 ปีข้างหน้าของแหล่งเอราวัณ และบงกช ในอ่าวไทย
นอกจากนี้ ยังพร้อมที่จะเดินหน้าเจรจาพื้นที่ปิโตรเลียมทับซ้อนไทย-กัมพูชา เนื่องจากมีปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่ค่อนข้างมากเป็นประโยชน์ทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นแผนเดิมอยู่แล้วแต่ไม่มีความคืบหน้าเนื่องจากมีปัญหาการเมือง และเป็นเรื่องของเขตแดนเขาพระวิหารเข้ามาเกี่ยวข้องจึงลามไปยังพื้นที่ทางทะเลซึ่งเรื่องนี้คงจะต้องมาดูรายละเอียดว่าจะต้องแยกการพิจารณาออกจากกัน
“แหล่งปิโตรเลียมของไทยเองเวลานี้ที่รู้มาคนก็สนใจเราน้อยมากถ้าเป็นผู้หญิงก็หาคนจีบยากนะ แต่เราเองก็ต้องจัดหาเพื่อความมั่นคง แหล่งอื่นๆ ส่วนใหญ่มีไม่ค่อยมากต่างจากแหล่งไทย ขมร ทราบว่าสำรองปิโตรเลียมค่อนข้างเยอะ ก็เป็นแผนที่ต้องคุยกันต่อไปก็ถือว่าเป็นแผนที่จะต้องทำอย่างขมีชมัน ส่วนจะจบได้ในรัฐบาลนี้หรือไม่คงตอบไม่ได้ เพราะเกี่ยวข้องกับกัมพูชา แต่ถ้าเป็นเรื่องแหล่งในประเทศคือ การเปิดสัมปทานรอบใหม่กับการต่ออายุสัมปทานที่จะหมดลงของอ่าวไทย 2 แห่งก็จะจบให้ได้ในรัฐบาลนี้” นายณรงค์ชัย กล่าว
นอกจากนี้ การจัดหาไฟฟ้าก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องไม่ให้เกิดปัญหาไฟตก-ดับ โดยที่ผ่านมาไทยมีการพึ่งพิงก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงที่ค่อนข้างมาก ก็จะต้องวางแผนให้เหมาะสม การคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าทำได้แต่จะต้องคิดด้วยว่าถ้าไม่สร้างแล้วจะจัดหาไฟฟ้าจากที่ไหน อย่างไรด้วย
