xs
xsm
sm
md
lg

จ่อชง “ฉัตรชัย” เคาะตรึงสินค้าต่อ 3 เดือน “พาณิชย์” ปลื้มหนูณิชย์พาชิมโตเร็วมีร้านค้าทะลุพันร้านแล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” เตรียมชง “ฉัตรชัย” พิจารณาต่ออายุมาตรการตรึงราคาสินค้าออกไปอีก 3 เดือน หลังครบกำหนด พ.ย.นี้ เหตุสถานการณ์สินค้าส่วนใหญ่ยังทรงตัว เผยหนูณิชย์พาชิมขยายตัวเร็วเกินคาด มีร้านอาหารปรุงสำเร็จเข้าร่วมทะลุ 1 พันร้านแล้ว เตรียมเปิดตัวต่างจังหวัด ต.ค.นี้ ตั้งเป้าให้ได้ 4 พันร้านทั่วประเทศ พร้อมออกราคาแนะนำอาหารเจ เหตุปีนี้จัดถึง 2 ครั้ง

นางจินตนา ชัยยวรรณาการ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในภาพรวม เบื้องต้นพบว่า ต้นทุนการผลิตสินค้ามีแนวโน้มทรงตัว ไม่มีการขยับขึ้นราคา จึงมีความเป็นไปได้ที่จะต่ออายุมาตรการตรึงราคาสินค้าต่อเนื่องไปอีก 2-3 เดือน หรือต่ออายุมาตรการจากสิ้นเดือน พ.ย.ไปจนถึงเดือน ม.ค-ก.พ.2558 โดยจะเสนอขอความเห็นชอบจาก พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ พิจารณาก่อน หากอนุมัติก็จะแจ้งให้ผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภครับทราบต่อไป

“กรมฯ ได้รายงานสถานการณ์ราคาสินค้าให้ พล.อ.ฉัตรชัย รับทราบแล้ว โดย รมว.พาณิชย์ ได้กำชับให้ดูแลสินค้าที่มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น เช่น เนื้อหมู ไข่ไก่ ซึ่งกรมฯ จะมีมาตรการในการดูแลตามนโยบายต่อไป” นางจินตนากล่าว

นางจินตนา กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการหนูณิชย์พาชิมที่จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จตามราคาแนะนำเมนู 25-35 บาท ขณะนี้มีร้านอาหารเข้าร่วมโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลแล้ว 1,002 ราย เกินเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 1,000 ราย ภายในเดือน ก.ย.2557 ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะจากการสอบถามร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการหนูณิชย์พาชิม พบว่า ยอดขายเพิ่มขึ้น 20% โดยกรมฯ จะเร่งดำเนินการให้มีร้านอาหารมาเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป

นอกจากนี้ จะเร่งผลักดันให้ร้านอาหารเข้าร่วมโครงการหนูณิชย์พาชิมในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยขณะนี้มีร้านอาหารเข้ามาสมัครแล้ว 200 ราย โดยจะเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ภายในต้นเดือน ต.ค.2557 ในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน และจะขยายโครงการไปทั้งประเทศ โดยตั้งเป้ามีร้านอาหารเข้าร่วมโครงการ 4,000 ราย ในพื้นที่ต่างจังหวัด เมื่อรวมกับ 1,000 ราย ในพื้นกรุงเทพฯ และปริมณฑล ก็จะมีร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ 5,000 ราย เชื่อว่าจะช่วยดูแลราคาอาหารจานด่วนให้แก่ประชาชนได้ครบถ้วน

นางจินตนา กล่าวว่า กรมฯ ได้เตรียมความพร้อมในการดูแลราคาสินค้าในช่วงเทศกาลกินเจ ที่ปีนี้จะมีการจัดถึง 2 ครั้ง โดยจากการตรวจสอบราคาผักสด และผลไม้ รวมทั้งเครื่องประกอบการอาหารเจในขณะนี้ยังไม่พบว่ามีราคาสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว จึงประเมินว่าราคาอาหารเจในปีนี้ ไม่น่าจะขายในราคาสูงกว่าปีที่แล้ว แต่กรมฯ ก็จะร่วมมือกับผู้ผลิตทำการเชื่อมโยงผักจากพื้นที่ต่างๆ ไปสู่ผู้บริโภค ซึ่งในระหว่างวันที่ 24 ก.ย.-2 ต.ค.2557 จะจัดงานเทศกาลกินเจที่ตลาดสดยิ่งเจริญ

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ในการดูแลราคาอาหารเจให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลกินเจ จะมีการออกราคาแนะนำอาหารเจในเมนูปกติ เช่น ต้มจับฉ่าย ข้าวผัดกะเพราเจ โดยขอความร่วมมือให้ตลาดสด และร้านอาหารที่ขายอาหารเจ ขายเมนูดังกล่าวไม่เกิน 25-35 บาท ส่วนเมนูพิเศษ คงต้องปล่อยให้ไปตามราคากลไกตลาด แต่จะให้ร้านค้าที่ขายเมนูพิเศษมีเมนูอาหารปกติแทรกขายอยู่ด้วย เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชน


กำลังโหลดความคิดเห็น