“พาณิชย์” สั่งค้าภายในจังหวัดตรวจสอบการจำหน่ายอาหารในแหล่งท่องเที่ยวป้องกันผู้บริโภคโดนเอาเปรียบ เผยผู้ว่าฯ สามารถใช้อำนาจกำหนดสินค้าที่มีปัญหาเป็นสินค้าควบคุมและกำหนดราคาแนะนำได้ทันที ขู่ใครไม่ทำตามมีโทษคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท
นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีร้านอาหารริมชายหาดหัวหินถูกร้องเรียนว่ามีการจำหน่ายอาหารแพงว่า กรมฯ ได้กำชับให้ค้าภายในจังหวัด และพาณิชย์จังหวัดตรวจสอบการจำหน่ายอาหารบริเวณแหล่งท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค โดยจะต้องพิจารณาจากต้นทุนวัตถุดิบ ค่าใช้จ่าย เช่าพื้นที่ประกอบว่าราคาจำหน่ายสมเหตุสมผลหรือไม่
ทั้งนี้ ในแง่ของระเบียบปฏิบัติ การพิจารณาเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการส่วนจังหวัด ซึ่งมีอำนาจออกมาตรการราคาแนะนำให้สินค้าที่มีปัญหาเป็นสินค้าควบคุมในพื้นที่นั้นๆ ได้ โดยให้ผู้ค้ากำหนดราคาอาหารอย่างเป็นธรรม และให้บวกกำไรได้ไม่เกิน 30% หากผู้ค้ารายใดขายเกินราคาแนะนำ สามารถเอาผิดตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มาตรา 29 มีโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท กรณีฉ้อโกงมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 6,000 บาท
นายสันติชัยกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้าทั่วๆ ไปยังเป็นปกติ ไม่มีผู้ผลิตสินค้ารายใดขอปรับราคาเข้ามา เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงการขอความร่วมมือตรึงราคาอยู่ และเชื่อว่าแม้จะพ้นช่วงขอความร่วมมือแล้วสินค้าก็จะไม่มีการปรับขึ้นราคา เพราะไม่มีปัจจัยที่เป็นแรงกดดัน
ส่วนการจะปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็น 10% ยังไม่มีผลในทางปฏิบัติ จึงยังไม่กระทบต่อราคาสินค้า และการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการก็ยังไม่มีผล และผลการศึกษาในเบื้องต้นก็พบว่าไม่มีผลต่อราคาสินค้า ไม่เหมือนกับปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน
สำหรับการปรับขึ้นราคาข้าวถุงพบว่า แม้จะมีการปรับขึ้นราคา แต่ยังไม่เกินราคาเพดานที่กำหนด และเป็นการปรับขึ้นราคาจากที่ลดลงมาเพื่อทำโปรโมชันก่อนหน้านี้ ขณะที่การร้องเรียนราคาสินค้าผ่านสายด่วน 1569 ส่วนใหญ่เป็นการร้องเรียนเรื่องไม่ปิดป้ายแสดงราคา และเรื่องการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มที่ประชาชนยังคงมีความสับสน
นางสุภาวดี การะเกด ค้าภายในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้หารือร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครอง ผู้ประกอบการร้านค้าอาหารชายหาดกว่า 30 ราย ได้ข้อสรุปตรงกันว่าจะมีการจัดระเบียบร้านค้าชายหาดหัวหินโดยจำหน่ายอาหารให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน และจะมีการจัดทำราคาแนะนำให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันด้วย โดยเทียบเคียงกับร้านอื่นๆ ในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งแก่ผู้ขายและผู้บริโภค คาดว่าจะสามารถประกาศราคาแนะนำได้ภายในสัปดาห์นี้ โดยเน้นอาหารที่ประชาชนนิยมสั่งมาบริโภค เช่น ส้มตำ ข้าวผัด ส่วนการจัดระเบียบสถานที่จะเริ่มปรับปรุงตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไปเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยสวยงาม
