ตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรวูบ พิษราคาสินค้าเกษตรตกต่ำและปัจจัยการเมืองฉุดยอดขายครึ่งปีแรกของสยามคูโบต้าหด 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ต้องปรับลดเป้าหมายการขายปีนี้จากโต 10% เป็นคงที่เท่าปีก่อนแทน ยอมรับสถานการณ์ราคาข้าวในปีหน้ายังไม่สู้ดี แต่ราคาพืชไร่ทั้งอ้อยและมันสำปะหลังยังไปได้ ทำให้มั่นใจปี 58 โตได้กว่า 10% พร้อมเปิดศูนย์กระจายอะไหล่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมส่งออกไป 50 ประเทศทั่วโลก
นายฮิโรชิ คาวาคามิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ปรับลดเป้าหมายยอดขายเครื่องจักรกลการเกษตรลงให้อยู่ระดับเดียวปีก่อนที่ 5 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่เคยตั้งเป้าเติบโต 10% เนื่องจากราคาพืชผลการเกษตรลดลงโดยเฉพาะข้าว และปัญหาความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศทำให้ยอดขายของบริษัทฯ ปรับลดลง 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้การใช้อัตรากำลังการผลิตเครื่องจักรลดลงอยู่ที่ 70% ของกำลังผลิตรวม แต่ครึ่งปีหลังนี้จะดีขึ้น เนื่องจากมีรัฐบาลใหม่เข้ามาเชื่อว่ามีนโยบายขับเคลื่อนภาคการเกษตร ซึ่งราคาพืชไร่ทั้งอ้อยและมันสำปะหลังจะยังคงดีอยู่แม้ว่าราคาข้าวยังไม่ดี ทำให้ยอดขายในครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้นชดเชย 6 เดือนแรกที่ลดลงไปได้
เป้าหมายยอดขายปีนี้ 5 หมื่นล้านบาท มาจากการส่งออกเครื่องจักรกลการเกษตรไปยังภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะกัมพูชา ลาว และพม่า คิดเป็นสัดส่วน 20% ของรายได้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรอยู่ที่ 70% ของตลาดรวมในไทย 7 หมื่นล้านบาท ขณะที่มูลค่าตลาดรวมเครื่องจักรกลการเกษตรของอาเซียนอยู่ที่ 1 แสนล้านบาท ซึ่งประเทศในอาเซียนยังมีการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรน้อยอยู่จึงมีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก และเป็นเหตุผลสำคัญที่บริษัทฯ รุกทำตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้มีการจัดตั้งบริษัทย่อยที่กัมพูชาและลาวเพื่อทำตลาดและส่งเสริมหลังการขาย เนื่องจากยอดขายใน 2 ประเทศนี้เติบโตสูงมาก ส่วนที่พม่านั้น ทางคูโบต้า ญี่ปุ่น กับบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) อยู่ระหว่างการหารือในการร่วมทุนที่จะเข้าไปตั้งบริษัทที่นั่นด้วย และไม่ใช่การลงทุนจากสยามคูโบต้าฯ
“ปีที่แล้วสยามคูโบต้ามียอดขายเครื่องจักรกลการเกษตรเติบโตขึ้น 30% จากปี 55 ซึ่งเติบโตเยอะมาก และเป็นการซื้อล่วงหน้าไปแล้ว ทำให้ยอดขายปีนี้ในไทยไม่เติบโตขึ้น แต่ในอาเซียนยังเติบโตดีอยู่”
นายฮิโรชิกล่าวต่อไปว่า แนวโน้มในปีหน้าภาพรวมตลาดข้าวในไทยยังทรงตัว ไม่ค่อยดีแต่ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐ ส่วนราคาอ้อยและมันสำปะหลังยังดีอยู่ เนื่องจากมีความต้องการบริโภคน้ำตาล การนำมันสำปะหลังมาทำพลังงานทดแทน รวมทั้งบริษัทฯ ได้เปิดสร้างศูนย์กระจายอะไหล่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ไทย เพื่อกระจายอะไหล่เครื่องจักรกลการเกษตรไปหลายประเทศทั่วโลก จึงมั่นใจว่าปีหน้าบริษัทฯ มียอดขายเติบโตจากปีนี้กว่า 10% และหันไปทำตลาดส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 25% ของรายได้รวม ขณะเดียวกันก็หันมาพัฒนาเครื่องจักรกลการเกษตรสำหรับพืชไร่มากขึ้นด้วย โดยอนาคตสัดส่วนการขายเครื่องจักรกลการเกษตรสำหรับปลูกข้าวกับพืชไร่จะอยู่ที่ 60:40 จากปัจจุบันอยู่ที่ 70:30
จากนโยบายภาครัฐในการจัดโซนนิ่งการข้าวในไทย ทำให้พื้นที่การเพาะปลูกข้าวจะลดลงเพื่อไปปลูกพืชไร่แทน ซึ่งเกษตรกรจะหันมาเน้นการปลูกข้าวที่ได้คุณภาพดี ราคาส่งออกสูงมากขึ้น ขณะที่พื้นที่ปลูกอ้อยจะเพิ่มมากขึ้นอีก 3-4 ล้านไร่ แต่ปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคการเกษตรเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกษตรกรต้องหันมาพึ่งพาเครื่องจักรกลการเกษตร ทั้งรถแทรกเตอร์ ฯลฯ เพิ่มขึ้นด้วย
วันนี้ (25 ส.ค.) สยามคูโบต้าเปิดศูนย์กระจายอะไหล่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในนิคมฯ นวนคร บนพื้นที่ 32 ไร่ ใช้เงินลงทุนกว่า 500 ล้านบาท เป็นอาคารขนาดใหญ่ สามารถเก็บอะไหล่ที่มีระบบการบริหารทั้งหมดภายในอาคารหลังคาเดี่ยว นับเป็นคลังอะไหล่ที่ให้บริการครบวงจรภายใต้อาคารหลังคาเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลกของคูโบต้า กรุ๊ป ที่ให้บริการอะไหล่ 5 หมื่นรายการ ซึ่งเป็นอะไหล่ที่ผลิตในไทย 1 หมื่นรายการ ส่งออกไปยัง 50 ประเทศทั่วโลก คาดว่ามียอดขายอะไหล่ปีนี้ 4 พันล้านบาท