xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯ มองหุ้นไทยเติบโตต่อ ศก.แข็งแกร่งดันเงินทุนไหลเข้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.กสิกรไทยประเมินหุ้นไทยยังเติบโตต่อเนื่อง ให้กรอบสิ้นปีนี้ไว้ที่1,500-1,550 จุด ขณะที่กรอบสิ้นปี 2558 ที่ระดับ 1,650-1,700 จุด ล่าสุดเตรียมจ่ายปันผล กองทุนเปิดเค หุ้นปันผล กองทุนเปิดรวงข้าว 2 และกองทุนเปิดรวงข้าว 4  ในวันที่ 14 สิงหาคมนี้

นายพงศ์พิเชษฐ์ นานานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ภายหลังจากการเข้ามาบริหารประเทศของ คสช. และนโยบายภาครัฐที่เป็นรูปธรรมชัดเจนมากขึ้น  โดย บลจ.กสิกรไทยมีมุมมองในเชิงบวกมากขึ้นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2558 ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยได้คาดการณ์ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปลายปี 2557 ที่ระดับ 1,500-1,550 จุด และปลายปี 2558 ที่ระดับ 1,650-1,700 จุด
    
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องติดตามและเป็นตัวดึงความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ คือความชัดเจนของการลงทุนภาครัฐในโครงการ 2.4 ล้านล้านบาท ว่าจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจได้มากแค่ไหน สำหรับกลยุทธ์การลงทุนของ บลจ.กสิกรไทย จะเน้นลงทุนหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศในช่วงครึ่งปีหลังที่ราคาหุ้นยังอยู่ในระดับที่ไม่แพงจนเกินไป เช่น ธนาคารพาณิชย์ กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มก่อสร้าง เป็นต้น ตลอดจนกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการส่งออกและที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ขนส่ง ท่องเที่ยว และยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นที่สามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐาน
    
สำหรับสภาวะตลาดทุนในช่วงเดือนที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.12% จากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาต่อเนื่องหลังมาตรการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีความชัดเจนขึ้น ทำให้มีสัญญาณเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทย ทำให้มีเม็ดเงินจากต่างชาติไหลเข้ามากว่า 1.49 หมื่นล้านบาทในเดือนที่ผ่านมา และทำให้ดัชนีขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 1,543 จุด ก่อนจะมีแรงขายทำกำไรออกมาในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาตามตลาดหุ้นอื่นทั่วโลก จากกรณีความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของอาร์เจนตินา ทำให้ตลาดหุ้นหลายประเทศที่ปรับตัวขึ้นสูงในช่วงก่อนหน้าเกิดแรงขายทำกำไรออกมา
    
นายพงศ์พิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมหุ้น 3 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค หุ้นปันผล (K-VALUE) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557  ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 ในอัตรา 0.38 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดรวงข้าว 2 (RKF2) และกองทุนเปิดรวงข้าว 4 (RKF4) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2557  ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2557  ในอัตรา 0.38 บาทต่อหน่วย และ 0.24 บาทต่อหน่วย ตามลำดับ โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียนในเวลา 08.00 น. ของวันที่ 31 กรกฎาคม 2557  กำหนดจ่ายเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 14 สิงหาคม 2557 มูลค่าการจ่ายปันผลรวมกว่า 213 ล้านบาท
    
ด้านผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นที่มีการจ่ายปันผลครั้งนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ  โดยเฉพาะกองทุน K-VALUE ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมากองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลังเป็นบวก แต่มีผลการดำเนินงานต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานเล็กน้อยในระยะสั้น แต่หากมองในระยะยาวกองทุนดังกล่าวยังให้ผลการดำเนินงานเป็นบวกและสามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐานได้อย่างมีนัยสำคัญ
    
“จุดเด่นของกองทุน K-VALUE อยู่ที่นโยบายการลงทุนซึ่งเน้นหุ้นพื้นฐานดีและกว่า 70% ของกองทุนเน้นลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มการจ่ายปันผลสูง จึงทำให้กองทุนนี้มีผลการดำเนินงานระยะยาวอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจและสามารถจ่ายเงินปันผลออกมาให้ผู้ถือหน่วยได้ค่อนข้างสม่ำเสมอแม้ในสภาวะที่ตลาดหุ้นไทยเผชิญความผันผวนค่อนข้างมากตลอดช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา  และหากพิจารณาถึงปัญหาทางการเมืองภายในประเทศในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งกดดันให้ตลาดมีการปรับตัวลงเป็นระยะด้วยแล้ว การลงทุนในกองทุนหุ้นปันผลอย่าง K-VALUE ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และสามารถช่วยลดความผันผวนจากการลงทุนในตลาดหุ้นลงได้”  นายพงศ์พิเชษฐ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น