xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นสหรัฐฯ-หุ้นไทยยังแข็งแกร่ง บลจ.แนะหาจังหวะทยอยสะสม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.กสิกรไทยมองหุ้นสหรัฐฯ ยังได้ปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจ แนะหาจังหวะกลับเข้าซื้ออีกครั้งเมื่อดัชนีปรับฐาน ล่าสุดเตรียมจ่ายปันผลกองทุนต่างประเทศ 3 กองทุน ทางด้าน บลจ.ยูโอบีประเมินหุ้นไทยยังได้ปัจจัยหนุนอีกเพียบหลังปัญหารการเมืองคลี่คลาย พร้อมเตรียมจ่ายปันผลกองทุนหุ้นไทยอีก 4 กองทุน

นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่า ระดับดัชนี Nasdaq ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ปรับตัวขึ้นมามากตามปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียน โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเติบโตและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำต่อไป แต่ก็ได้ทยอยลดวงเงินในมาตรการ QE ลงต่อเนื่องอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าโครงการจะสิ้นสุดในช่วงปลายปีนี้

ทั้งนี้ ความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้อยังไม่มีสัญญาณ และยังคงเป้าหมายเงินเฟ้อไว้ที่ 2% ตามเดิม แต่ต้องคอยจับตาดูทิศทางนโยบายการเงินของ Fed ซึ่งจะกระทบต่อทิศทางการลงทุนของโลกในภาพรวมและอาจทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีการปรับฐานลงมาได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่า บลจ.กสิกรไทยจะมีมุมมองเป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่เนื่องจากระดับราคาที่ปรับตัวขึ้นมามากแล้ว ดังนั้นนักลงทุนอาจทยอยรับรู้ทำกำไรออกมาบางส่วน และหาจังหวะในการเข้าซื้ออีกครั้งเมื่อดัชนีปรับฐานลงมาแล้ว

ล่าสุด บลจ.กสิกรไทยเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนต่างประเทศ 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค โกลบอล แอลโลเคชั่น (K-GA) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2556-31 พฤษภาคม 2557 โดยจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดเค โกลบอล อิควิตี้ (K-GLOBE) จะจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2556-31 พฤษภาคม 2557 ในอัตรา 0.35 บาทต่อหน่วย และกองทุนกองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว 100 (K-USXNDQ) ซึ่งจะจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2557-31 พฤษภาคม 2557 ในอัตรา 0.75 บาทต่อหน่วย โดยทั้ง 3 กองทุนดังกล่าวจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียนเวลา 08.00 น. ของวันที่ 2 มิถุนายน 2557 และมีกำหนดจ่ายปันผลพร้อมกันในวันที่ 13 มิถุนายน 2557

ยูโอบีมองการเมืองคลี่คายดันหุ้นไทยเติบโต

นางสาวณัชชา สุนทรธาราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลัง บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) ยังคงมีมุมมองที่ดี ด้วยสถานการณ์การเมืองที่คลี่คลาย ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญต่อภาพรวมของเศรษฐกิจไทย ที่ผ่านมาบรรยากาศการลงทุนที่ค่อนข้างผันผวนกดดันดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ให้ปรับตัวลดลงตั้งแต่เมื่อช่วงกลางปี 2556 สะท้อนความกังวลต่อปัจจัยภายนอกประเทศที่มีความกังวลต่อการพิจารณาลดมาตรการอัดฉีดสภาพคล่อง (QE Tapering) และความไม่แน่นอนในการเจรจาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ

นอกจากนี้ ด้านปัจจัยภายในประเทศ ภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวจากตัวเลขหนี้ครัวเรือนระดับสูง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และการชะลอตัวของการผลิตภาคอุตสาหกรรม สถานการณ์การเมืองที่ยืดเยื้อตั้งแต่ในช่วงปลายปี ส่งผลให้ SET Index ปรับตัวต่ำกว่าระดับ 1,300 จุดในเดือนธันวาคม 2556 รวมทั้ง บลจ.ยูโอบีได้ติดตามและมั่นใจว่าปัจจัยกดดันดังกล่าวเป็นผลกระทบในระยะสั้น จึงเน้นลงทุนหุ้นพื้นฐานดีในระดับราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงและได้รับผลกระทบน้อยจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจ

นางสาวณัชชากล่าวว่า บลจ.เตรียมจ่ายเงินปันผล 4 กองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้นไทย คือ กองทุนเปิด ไทย แวลู โฟกัส อิควิตี้ ปันผล (VFOCUS-D) และกองทุนประเภทหุ้นระยะยาวอีก 3 กองทุน คือ กองทุนเปิด Big Cap ปันผล หุ้นระยะยาว (BIG CAP-D LTF), กองทุนเปิด 70/30 ปันผล หุ้นระยะยาว (70/30-D LTF) และกองทุนเปิด แวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว (VALUE-D LTF) โดยกองทุนดังกล่าวได้กำหนดจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยในวันที่ 12 มิถุนายน 2557 นี้


กำลังโหลดความคิดเห็น