การบินไทยวิกฤต เผยเงินสดหมุนเวียนมีถึงแค่ ก.ย. ลุ้นออมสินปล่อยกู้เสริมสภาพคล่องเร่งด่วน ไม่ทันต้องดึงเครดิตไลน์มาใช้เพื่อรักษากระแสเงินสดไม่ให้ต่ำเกณฑ์ แต่ยังไม่กระทบการใช้จ่าย “รักษาการดีดี” เผยกู้เพื่อมาจ่ายค่ามัดจำ ค่าเช่าเครื่องบิน และเสริมสภาพคล่องรวม 2 หมื่นล้าน ส่วนแผนฟื้นฟูชงบอร์ด 29 ส.ค.นี้ตั้งอนุฯ กก. 3 ฝ่ายแก้จุดอ่อน เผย Q3/57 cabin factor วูบเหลือ 65-70% ส่วน Q4/57 ฟื้นเป็น 80% เชื่อว่า 57 ขาดทุนไม่เกิน 1.2 หมื่นล้าน
พล.อ.อ.ศิวเกียรติ์ ชเยมะ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างรอกระทรวงการคลังพิจารณาจัดหาเงินกู้จำนวน 2 หมื่นล้านบาทเพื่อมาเสริมสภาพคล่อง ซึ่งเงินสดหมุนเวียนจะมีพอในเดือนกันยายนนี้ โดยบริษัทจะต้องมีเงินสดหมุนเวียนประมาณ 1.2 หมื่นล้านต่อเดือน แต่หากคลังพิจารณาล่าช้าบริษัทได้ขอกู้จากธนาคารออมสินมาช่วยก่อน ทั้งนี้ คาดว่าอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (cabin factor) ในช่วงไตรมาส 3/57 จะลดลงมาอยู่ที่ 65-70% ต่ำกว่าไตรมาส 2/57 เล็กน้อยเนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซัน แต่จะฟื้นตัวมาอยู่ที่80% ในช่วงไตรมาส 4/57 ซึ่งได้กำชับผู้จัดการฝ่ายขายในแต่ละประเทศดูแลการขายตั๋วโดยสาร และคาดว่าผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 4/57 นี้น่าจะมีกำไร และเชื่อว่าในปีนี้บริษัทจะขาดทุนไม่เกิน 1.2 หมื่นล้านบาทจากเดิมคาดว่าจะขาดทุนสูงถึง 2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะเดินหน้าตามแผนฟื้นฟูกิจการ และแก้ไขจุดอ่อน เช่น จำนวนพนักงานมากเกินไป เครื่องบินมากเกินไป เส้นทางบิน เป็นต้น
โดยแผนฟื้นฟูการบินไทยนั้น ได้เสนอซูเปอร์บอร์ดแล้วแต่ยังเห็นว่าแผนยังไม่ชัดเจน เช่น ตำแหน่งของการบินไทยในตลาดการบิน และแผนธุรกิจ ซึ่งจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการฟื้นฟูซึ่งมีผู้แทนจาก 3 ส่วน คือ ซูเปอร์บอร์ด บอร์ดการบินไทย และฝ่ายบริหารการบินไทย เพื่อช่วยแนะนำแก้ไขจุดอ่อน กำหนดรายละเอียดและแนวทางฟื้นฟู โดยเป้าหมายเพื่อให้การบินไทยกลับมาเป็นที่ 1 ในภูมิภาค ซึ่งจะมีการประชุมบอร์ดการบินไทยวันที่ 29 สิงหาคมนี้เพื่อตั้งคณะอนุกรรมการเร่งดำเนินการฟื้นฟูกิจการเนื่องจากคลังจะพิจารณาเงินกู้ให้แผนฟื้นฟูต้องชัดเจนก่อน
ร.อ.อ.มนตรี จำเรียง รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายกลยุทธ์และพัฒนาอย่างยั่งยืน การบินไทย กล่าวว่า บริษัทต้องการเงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาทมาสนับสนุน ทั้งสภาพคล่องและการจ่ายค่ามัดจำและค่าเช่าเครื่องบิน เนื่องจากประเมินแล้วพบว่าช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี 57เงินสดหมุนเวียนจะต่ำกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท หรือ 15% ของรายได้ บริษัทมีความจำเป็นต้องรักษาระดับกระแสเงินสดไว้ โดยแผนสำรองในระหว่างรอเงินกู้จากคลังคือกู้จากธนาคารออมสิน 5,000-7,000 ล้านบาทอายุ 6-12 เดือน ภายในเดือนกันยายนนี้ มาช่วยเร่งด่วนก่อน หากขั้นตอนกู้ออมสินไม่แล้วเสร็จ จำเป็นต้องใช้เครดิตไลน์ของบริษัทที่มีประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาทมาใช้ก่อน
โดยในปี 57 บริษัทจะรับมอบเครื่องบินรวม 7 ลำ คือ เครื่องบินดรีมไลเนอร์ 787 จำนวน 3 ลำ, โบอิ้ง 777-300 ER/2 ลำ และแอร์บัส 320-300/2 ลำ ส่วนปี 58-60 จะรับมอบเฉลี่ยปีละ 5 ลำ และยังสั่งซื้อเครื่องบินดรีมไลเนอร์ 787 ทั้งหมดจำนวน 9 ลำ กำหนดรับมอบในช่วงปี 57-60 โดยใช้วิธีเช่าซื้อ ซึ่งมีค่าเช่าประมาณ 1 แสนเหรียญ/ลำ/ปี อีกด้วย
ส่วนการปรับลดพนักงานจะต้องประเมินจากจำนวนเครื่องบินที่มี ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องบิน 100 ลำ ควรมีพนักงาน 1.8 หมื่นคน แต่การบินไทยมีพนักงาน 2.4 หมื่นคน จึงตั้งเป้าหมายปรับลดไว้ที่ 6,000 คนใน 5 ปีหรือเฉลี่ย 1,200 คนต่อปี โดยปีนี้มีพนักงานครบเกษียณอายุ 500 คน และมีสมัครใจเข้าโครงการเกษียณก่อนกำหนดอีก 900 คนคาดว่าจะใช้เงิน 2,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างประเมิน โดยมีความเหมาะสมเพราะเงินลงทุน 2,000 ล้านบาทจะคืนทุนใน 3 ปี