“กพช.” การันตีไม่มีนโยบายแปรรูปกิจการท่อก๊าซฯ สั่ง “ปตท.” ให้แยกกิจการท่อก๊าซมาตั้งบริษัทใหม่ภายใน มิ.ย. 58 ระยะแรกให้ถือหุ้น 100% หลังจากนั้นให้คลังเข้ามาถือหุ้นร่วม 20-25% เพื่อให้มั่นใจอีกขั้น ลั่นยังมีเรกูเลเตอร์กำกับอีกชั้นเตรียมเปิดให้บริการแก่บุคคลที่ 3 หวังดึงราคาก๊าซฯอนาคตให้ต่ำลง
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ว่า กพช.ได้เห็นชอบให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ดำเนินการแยกกิจการท่อก๊าซธรรมชาติออกจากกิจการจัดหาและจำหน่ายก๊าซธรรมชาติในลักษณะการแบ่งแยกตามกฎหมายออกไปในรูปบริษัทจำกัด โดยให้แล้วเสร็จภายใน มิ.ย. 58 โดยยืนยันว่าจะไม่มีการแปรรูปกิจการท่อก๊าซฯ แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ระยะแรกให้ ปตท.ถือหุ้น 100% ก่อน แล้วหลังจากนั้นให้กระทรวงการคลังพิจารณาเข้ามาถือหุ้นประกอบด้วย โดยระยะแรกก็อาจจะถือประมาณ 20-25% ไปก่อน ทั้งนี้เพื่อที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้หลายฝ่ายที่เกรงว่าที่สุดจะเกิดการแปรรูปกิจการให้เอกชน อย่างไรก็ตาม ขณะเดียวกันกฎกติกาต่างๆ ในการกำกับก็ต้องขึ้นตรงต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) ซึ่งจะทำให้มั่นใจมากว่าทุกอย่างจะมีขั้นตอนที่โปร่งใสและตรวจสอบได้
“ที่ประชุมยังเห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยกเว้นภาษีต่างๆ และค่าธรรมเนียมในการโอนทรัพย์สินจาก บมจ.ปตท.ให้แก่บริษัทจำกัดที่จัดตั้งขึ้นใหม่ และขณะเดียวกันเรกูเลเตอร์จะมีการจัดทำข้อบังคับว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดทำข้อกำหนดเกี่ยวกับการเปิดให้ใช้หรือเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีแอลเอ็นจีแก่บุคคลที่สาม (Third Party Access Regime : TPA Regime) โดยให้ประกาศใช้ได้ภายในเดือนมีนาคม 2558 ซึ่งแนวทางนี้จะทำให้มีการแข่งขันในการบริการจำหน่ายก๊าซฯ ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้ราคาต่ำ และที่สุดจะสะท้อนมายังค่าไฟฟ้าที่ถูกลงได้ในระยะยาว” นายอารีพงศ์กล่าว
นอกจากนี้ยังมอบหมายให้สำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และเรกูเลเตอร์ ดำเนินการทบทวนการกำหนดโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ เพื่อให้โครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติสามารถรองรับโครงสร้างการแข่งขันในอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติที่จะเกิดขึ้น และให้นำกลับมาเสนอ กพช.เพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อไป