xs
xsm
sm
md
lg

PTTGC ชี้ปิโตรฯ คอมเพล็กซ์อินโดฯ ล่าช้า พร้อมดึงไทยออยล์ปรับปรุงโรงกลั่นเดิม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พีทีที โกลบอลฯ ยอมรับโครงการร่วมทุนปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ ที่อินโดนีเซีย ส่อแววล่าช้า หลังจากปรับรูปแบบใหม่เลือกโรงกลั่นเดิมไปปรับปรุงเพื่อต่อยอดโครงการปิโตรเคมี คาดผลศึกษาสรุปไตรมาส 1/58 จากเดิมปลายปีนี้ พร้อมดึงไทยออยล์เข้าร่วมปรับปรุงโรงกลั่นเดิมเพื่อให้กลั่นได้ 2-3 แสนบาร์เรล/วัน

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการบริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) เปิดเผยความคืบหน้าการร่วมลงทุนระหว่าง PTTGC กับเปอร์ตามิน่า ในโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ ที่ประเทศอินโดนีเซีย ว่าโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ที่อินโดนีเซียล่าช้าออกไปเนื่องจากได้เปลี่ยนรูปแบบการลงทุนจากเดิมจะสร้างโรงกลั่นในพื้นที่ใหม่แล้วต่อยอดด้วยโครงการปิโตรเคมี แต่ล่าสุดได้ตัดสินใจเลือกโรงกลั่นเดิมที่มีอยู่แล้วปรับปรุงโรงกลั่นให้มีกำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นเป็น 2-3 แสนบาร์เรล/วัน ก่อนต่อยอดไปทำโครงการปิโตรเคมีครบวงจร

โดยผลการศึกษาคาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 6-9 เดือนข้างหน้า หรือในช่วงไตรมาส 1/2558 จากเดิมที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้

การลงทุนโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ที่อินโดนีเซียดังกล่าวนี้ ทางกลุ่ม ปตท.มีแผนจะใช้ศักยภาพของบริษัทย่อยในการลงทุน โดยไทยออยล์มีความสนใจที่จะเข้าไปร่วมปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันดังกล่าว ขณะที่ PTTGC มีความเชี่ยวชาญในการลงทุนด้านปิโตรเคมี ก็จะเข้าไปลงทุนเฉพาะในส่วนปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ที่จะมีทั้งการสร้างโรงงานปิโตรเคมีต้นน้ำทั้งโอเลฟินส์ และอะโรเมติกส์ และโครงการปลายน้ำ เพื่อทดแทนการนำเข้า คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

นายประเสริฐกล่าวถึงกรณีที่สมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะเสม็ด จ.ระยอง ฟ้องศาลเรียกค่าเสียหายจาก PTTGC ในเหตุการณ์น้ำมันรั่วทางทะเลเมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2556 มูลค่า 1 พันล้านบาทว่า ที่ผ่านมา PTTGC ได้มีการเยียวยาผู้ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งทำแผนฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ซึ่งก็มีผู้ได้รับผลกระทบบางกลุ่มได้ยื่นฟ้องร้องศาล ซึ่งบริษัทฯ ยืนยันว่าไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบและพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งศาล

“บริษัทเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก โดยบริษัทได้ปรับระบบวิธีการ วัสดุอุปกรณ์ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น และไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบหากศาลมีคำสั่งออกมา โดยบริษัทยินดีที่จะพูดคุยกับสมาคมฯ นอกศาล”

นายประเสริฐ ในฐานะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และประธานองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) กล่าวด้วยว่า การเข้าไปทำงาน สนช.จะนำเรื่องความไม่เข้าใจในข้อมูลพลังงานไปหารือ เพราะที่ผ่านมาการให้ข้อมูลไม่สะท้อนข้อเท็จจริงเป็นจำนวนมาก คงจะหารือกันว่าดำเนินการอย่างไร เพราะไม่เช่นนั้นจะกระทบความมั่นคงพลังงาน ในขณะเดียวกันจะนำเรื่องสิ่งแวดล้อม พลังงาน การดูแลทรัพยากร การลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ไปหารือด้วยว่าจะออกฎหมาย หรือปรับปรุงกฎหมายเดิมให้สิ่งเหล่านี้เชื่อมต่อกันอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น