ศึกเพย์ทีวีฝุ่นตลบ “ทรูวิชั่นส์” ซุ่มปรับแพกเกจรับการเปลี่ยนแปลง หวังมัดใจลูกค้าระดับมิดเทียร์ให้อยู่มือ หลัง “ซีทีเอช”ฮุบ “จีเอ็มเอ็ม แซท” สร้างแกร่งเขย่าบัลลังก์ มั่นใจปักหมุดลุยแผนตลาดถูกทาง สิ้นปีรายได้โต 30% พร้อมทุ่มอีก 5,000 ล้านบาทกว้านซื้อคอนเทนต์ลุยปีหน้า ล่าสุดเพิ่มช่อง RTL CBS Extreme HD เอาใจสมาชิกโกลด์และแพลทินัมแพกเกจในระบบเคเบิล
นายอรรถพล ณ บางช้าง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายรายการ บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ไทยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีการลงทุนในหลายๆ แพลตฟอร์มซึ่งต่างชาติได้คาดการณ์ไว้ว่าภายใน 2-3 ปีจะได้เห็นการรวมตัวกันของแต่ละบริษัท เพราะมองว่าปีแรกจะเห็นการลงทุนสูงแต่รายได้น้อย สุดท้ายจะหันมาจับมือกัน พร้อมชูความได้เปรียบ หรือโฟกัสในสิ่งที่มีเพื่อสร้างรายได้ โดยพบว่าธุรกิจเพย์ทีวีก็มีทิศทางไปทางเดียวกัน
ล่าสุดที่ บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) และบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้แลกหุ้นกัน “ทรูวิชั่นส์” ได้มีการประชุมหารือในการวางแผนดำเนินธุรกิจเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีการปรับเปลี่ยนแพกเกจการรับชมให้ตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกได้ดียิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้สมาชิกหลุดไปสู่แพลตฟอร์มอื่น ถือเป็นการดำเนินงานที่ดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ตั้งแต่ปีก่อนที่ผ่านมา หลังจากที่ไม่มีกสนถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ภายใต้กลยุทธ์การดำเนินงานที่วางไว้ 4 ส่วนหลักคือ 1.แพกเกจคอนเทนต์ต้องครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย 2.ความเสถียรของกล่องรับสัญญาณ 3.คอนเทนต์และช่องรายการแบบ HD และ 4.บริการหลังการขายรวมถึงระบบคอลเซ็นเตอร์
“ด้วยกลยุทธ์ที่บริษัทวางไว้ตั้งแต่เสียการถ่ายทอดสดฟุบอลพรีเมียร์ลีกไปกับการจัดทำแพกเกจการรับชมให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้ทั้งหมด รองรับสมาชิกในระดับโกลด์แพกเกจและแพลทินัมแพกเกจที่ไม่ชื่นชอบกีฬา จะลดลงมาเลือกชมในแพกเกจระดับมิดเทียร์ที่มีคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจแทน ทำให้ภาพรวมยอดสมาชิกไม่ได้ตกลง ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของเพย์ทีวีที่เกิดขึ้นสุดท้ายแล้วจะมีคู่แข่งอยู่กี่ราย หรือในภาพรวมอุตสาหกรรมโทรทัศน์จะมีฟรีทีวีในรูปแบบดิจิตอลทีวีเกิดขึ้นอีกกว่า 24 ช่องก็ตาม แต่ด้วยความได้เปรียบของทรูวิชั่นส์ที่เป็นผู้นำและดำเนินธุรกิจเพย์ทีวีมายาวนานจะยังคงมุ่งหาคอนเทนต์เพื่อสร้างความพึงพอใจแก่สมาชิก พร้อมปรับแพกเกจรับตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมั่นใจว่าจะยังคงรักษาฐานสมาชิกไว้ได้”
บริษัทฯ ยังคงพร้อมใช้งบลงทุนด้านคอนเทนต์อีกไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาทในปี 2558 จากปีนี้ที่ใช้ถึง 5,000 ล้านบาท มากกว่าช่วงที่มีพรีเมียร์ลีกที่ต่อปีใช้งบลงทุนด้านคอนเทนต์เพียง 3,000-4,000 ล้านบาทเท่านั้น เนื่องจากเชื่อว่าราคาคอนเทนต์ในปีหน้าจะขยับเพิ่มสูงขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 5 เท่า หลังจากดิจิตอลทีวีเกิดขึ้น เพราะคอนเทนต์จะมีความต้องการสูงมาก จากปัจจุบันทรูวิชั่นส์มีช่องรายการทั้งสิ้น 201 ช่อง เป็นช่องในระบบ HD กว่า 50 ช่อง อนาคตยังจะเพิ่มช่อง HD เข้ามาอีกอย่างต่อเนื่อง โดยครึ่งปีหลังจะเห็นอีกอย่างน้อย 3 ช่อง งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เป็นการปรับจากช่องปกติที่มีอยู่ขึ้นมาเป็นระบบ HD เช่น ช่องอินไซด์ เป็นต้น
ล่าสุดยังได้จับมือกับ RTL CBS Asia Entertainment Network เปิดตัวช่อง RTL CBS Extreme HD เอาใจผู้ชายที่ชื่นชอบความบันเทิงแบบเอ็กซ์ตรีม ทั้งซีรีส์ เรียลลิตี้ กีฬา และมายากล เป็นต้น ในแพกเกจโกล์ดแพกเกจและแพลทินัมแพกเกจระบบเคเบิล มั่นใจว่าจะเป็นอีกช่องรายการหนึ่งที่จะทำให้ภาพรวมรายได้จากค่าสมาชิกของทรูวิชั่นสขยับเพิ่มอีก 30% จากปัจจุบันมียอดสมาชิกรวมทั้งสิ้นราว 2 ล้านครัวเรือน แบ่งเป็นโกลด์แพกเกจและแพลทินัมแพกเกจรวมกัน 2 แสนครัวเรือน จากภาพรวมแพกเกจที่เก็บรายเดือนทั้งหมด 6-7 แสนครัวเรือน ซึ่งรายได้กว่า 50% มาจากสมาชิกในโกลด์แพกเกจและแพลทินัมแพกเกจรวมกัน
