ASTVผู้จัดการรายวัน - ซีทีเอชดิ้นอีกเฮือกหลังเจ็บตัวปีที่แล้ว ปรับแผนใหม่ "เชิดศักด์" นั่งกุมบังเหียน เน้นบริหารคอนเทนต์กู้รายได้ ตัดทิ้งเคเบิลโอปอเรเตอร์เหลือ 100 ราย จาก 170 รายทั่วประเทศ ส่งแพกเกจถูกดูดสมาชิกใหม่ หวังจาก 5 แสน สู่ 1 ล้านรายในสิ้นปี ยังหวังอีกปีนี้คุ้มทุน รับ 5,000-6,000 ล้านบาท
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้เข้ามาร่วมงานกับทางซีทีเอชได้เพียง 2 เดือน ซึ่งมองว่า ซีทีเอช เป็นธุรกิจที่มีต้นทุนก่อนทำธุรกิจ จากการที่ต้องจ่ายค่าคอนเทนต์ไปก่อน แล้วนำมาบริหารสร้างรายได้ตามหลัง ความยากลำบากคือจะต้องเร่งสร้างฐานสมาชิกและบริหารคอนเทนต์ให้เร็วที่สุดจึงจะก้าวต่อไปได้
“เดิมที 20 ปีก่อนหน้านี้ ผมได้เข้ามารุกในธุรกิจเคเบิลทีวีมาแล้วเช่นกัน ในยุคของ IBC ก่อนจะควบรวมกับ UBC จนมาเป็นทรูวิชั่นส์ในปัจจุบัน ในตำแหน่งประธานบริษัท ซึ่งความยากในการทำธุรกิจในครั้งนั้นเป็นเรื่องของเทคโนโลยี แต่ครั้งนี้คือต้นทุนที่ฟิกซ์ไว้อยู่แล้ว และเราต้องเร่งสร้างสมาชิกให้เร็วที่สุด”
ดังนั้นแผนการดำเนินงานของซีทีเอชหลังจากนี้จะเน้น 2 ข้อ คือ 1.มุ่งสร้างฐานสมาชิก โดยการนำเสนอคอนเทนต์ภายใต้โปรแกรมที่หลากหลาย จากเดิมที่มีแพกเกจเดียวคือ 599 บาทต่อเดือน ล่าสุดปีนี้จัดเพิ่มอีก 4 แพกเกจ คือ 270 บาทต่อเดือน, 450 บาทต่อเดือน, 750 บาทต่อเดือน และ 999 บาทต่อเดือน โดยจะมีออกมาอีกเพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคให้มากสุด ภายใต้กลยุทธ์เซกเมนต์มาร์เก็ตให้สมาชิกเข้าถึงคอนเทนต์ได้มากขึ้น
2.มุ่งเพิ่มพาร์ทเนอร์ใหม่ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การจับมือกับพีเอสไอ บริหารคอนเทนต์ด้วยแพกเกจระดับกลาง คือ 270 บาท, 450 บาท และ 750 บาทต่อเดือน และการจับมือกับจีเอ็มเอ็ม แซท กับแพกเกจระดับบน คือ 999 บาท ซึ่งจากการเกิดดิจิตอลทีวีถือเป็นปัจจัยบวกในการบริหารคอนเทนต์สู่พาร์ทเนอร์รายอื่นๆต่อไป โดยเฉพาะคอนเทนต์พรีเมียร์ลีก ที่ยังสามารถบริหารจัดการนำไปออนแอร์ได้อีก เชื่อว่าถึงสิ้นปีนี้จะมีฐานสมาชิกรวมกว่า 3 ล้านราย แบ่งเป็น แพลฟอร์มอื่นๆ 2 ล้านราย และจากแพลทฟอร์มซีทีเอช 1 ล้านราย เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 5 แสนราย
ทั้งนี้จากการที่พลาดเป้าสมาชิกไป สปอนเซอร์พรีเมียร์ลีกอาจจะไม่พอใจไปบ้าง แต่ปีนี้ได้ปรับการบริหารคอนเทนต์ใหม่ ส่งผลให้สปอนเซอร์พอใจมากขึ้น เพราะเข้าถึงคนดูได้มากขึ้น เชื่อว่าจะเป็นโอกาสในการเพิ่มสปอนเซอร์เข้ามาได้อีกมาก
นายเชิดศักดิ์ กล่าวต่อว่า จะเห็นได้ว่าปีที่ผ่านมาซีทีเอชมีสมาชิกเพียง 5 แสนรายต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก เนื่องจากพบว่าเคเบิลทีวีเป็นแพลททฟอร์มที่ขยายตัวได้ช้าสุด เมื่อเทียบกับแพลทฟอร์มอื่นๆ ส่งผลให้ปีนี้บริษัทจะเน้นการเข้าถึงสมาชิกด้วยแพลทฟอร์มอื่นๆเป็นหลัก พร้อมบริหารคอนเทนต์ให้สร้างรายได้มากสุด โดยในส่วนของเคเบิลเองนั้น จากเดิมที่มีสมาชิกจากเคเบิลโอปอเรเตอร์กว่า 170 ราย จะลดลงเหลือ 100 ราย เพื่อสะดวกต่อการดำเนินธุรกิจ และการเพิ่มฐานสมาชิก ด้วยแพกเกจที่เหมาะสม
"ต้องยอมรับว่า 170 เคเบิลโอปอเรเตอร์ที่มีอยู่ ต่างก็มีฐานสมาชิกที่มีการเรียกเก็บค่าสมาชิกแตกต่างกัน รวมถึงศักยภาพในการขยายโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกของแต่ละราย เราจึงต้องเลือกสมาชิกที่มีศักยภาพที่พร้อมจะก้าวไปพร้อมๆกับซีทีเอชก่อน เลือกสมาชิกที่มีฐานสมาชิกพร้อมจ่ายค่าแพกเกจตามที่ซีทีเอชจัดขึ้นมา ส่วนสมาชิกที่เหลือยังคงอยู่ โดยให้สมาชิกเหล่านั้นมีความพร้อมมากกว่านี้ก่อนจึงจะมีการร่วมมือกันต่อไป"
อย่างไรก็ตามในส่วนของการลงทุน ปีนี้จะเน้นเรื่องของคอนเทนต์เป็นหลัก รวมกว่า 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกปีละ 100 ล้านยูเอสดอลล่าร์ และคอนเทนต์อื่นๆอีก 1,500 ล้านบาท โดยในส่วนของโครงสร้างต่างๆ ตามก้าวต่อไปของซีทีเอชนั้น ช่วงปลายปีนี้จะได้เห็นบริการใหม่ๆเกิดขึ้น เช่น อินเทอร์เน็ต และไอพีทีวี เป็นต้น โดยในปีหน้าซีทีเอชจะก้าวสู่ความเป็นบรอดแบนด์เต็มรูปแบบ ส่วนการก้าวสู่ความเป็นทริปเปิ้ลเพย์ และควอดเพย์ยังอยู่ในแผนแต่อาจจะล้าช้าออกไป จนกว่าซีทีเอชจะมีฐานสมาชิกที่แข็งแกร่งกว่านี้
โดยในปีหน้ามั่นใจว่า จะมีฐานสมาชิกจากแพลทฟอร์มซีทีเอชได้ 1.5 ล้านราย และเป็นปีที่มีเริ่มมีกำไร จากเป้าหมายในปีนี้ที่คาดว่าจะเริ่มคุ้มทุนด้วยรายได้ไม่ต่ำกว่า 5,000-6,000 ล้านบาท โดยกว่า 1 ใน 6 หรือราว 1,000 ล้านบาท ของรายได้มาจากการบริหารคอนเทนต์ และในจำนวนดังกล่าวกว่า 800 ล้านบาท มาจากการบริหารคอนเทนต์พรีเมียร์ลีก
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้เข้ามาร่วมงานกับทางซีทีเอชได้เพียง 2 เดือน ซึ่งมองว่า ซีทีเอช เป็นธุรกิจที่มีต้นทุนก่อนทำธุรกิจ จากการที่ต้องจ่ายค่าคอนเทนต์ไปก่อน แล้วนำมาบริหารสร้างรายได้ตามหลัง ความยากลำบากคือจะต้องเร่งสร้างฐานสมาชิกและบริหารคอนเทนต์ให้เร็วที่สุดจึงจะก้าวต่อไปได้
“เดิมที 20 ปีก่อนหน้านี้ ผมได้เข้ามารุกในธุรกิจเคเบิลทีวีมาแล้วเช่นกัน ในยุคของ IBC ก่อนจะควบรวมกับ UBC จนมาเป็นทรูวิชั่นส์ในปัจจุบัน ในตำแหน่งประธานบริษัท ซึ่งความยากในการทำธุรกิจในครั้งนั้นเป็นเรื่องของเทคโนโลยี แต่ครั้งนี้คือต้นทุนที่ฟิกซ์ไว้อยู่แล้ว และเราต้องเร่งสร้างสมาชิกให้เร็วที่สุด”
ดังนั้นแผนการดำเนินงานของซีทีเอชหลังจากนี้จะเน้น 2 ข้อ คือ 1.มุ่งสร้างฐานสมาชิก โดยการนำเสนอคอนเทนต์ภายใต้โปรแกรมที่หลากหลาย จากเดิมที่มีแพกเกจเดียวคือ 599 บาทต่อเดือน ล่าสุดปีนี้จัดเพิ่มอีก 4 แพกเกจ คือ 270 บาทต่อเดือน, 450 บาทต่อเดือน, 750 บาทต่อเดือน และ 999 บาทต่อเดือน โดยจะมีออกมาอีกเพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคให้มากสุด ภายใต้กลยุทธ์เซกเมนต์มาร์เก็ตให้สมาชิกเข้าถึงคอนเทนต์ได้มากขึ้น
2.มุ่งเพิ่มพาร์ทเนอร์ใหม่ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การจับมือกับพีเอสไอ บริหารคอนเทนต์ด้วยแพกเกจระดับกลาง คือ 270 บาท, 450 บาท และ 750 บาทต่อเดือน และการจับมือกับจีเอ็มเอ็ม แซท กับแพกเกจระดับบน คือ 999 บาท ซึ่งจากการเกิดดิจิตอลทีวีถือเป็นปัจจัยบวกในการบริหารคอนเทนต์สู่พาร์ทเนอร์รายอื่นๆต่อไป โดยเฉพาะคอนเทนต์พรีเมียร์ลีก ที่ยังสามารถบริหารจัดการนำไปออนแอร์ได้อีก เชื่อว่าถึงสิ้นปีนี้จะมีฐานสมาชิกรวมกว่า 3 ล้านราย แบ่งเป็น แพลฟอร์มอื่นๆ 2 ล้านราย และจากแพลทฟอร์มซีทีเอช 1 ล้านราย เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 5 แสนราย
ทั้งนี้จากการที่พลาดเป้าสมาชิกไป สปอนเซอร์พรีเมียร์ลีกอาจจะไม่พอใจไปบ้าง แต่ปีนี้ได้ปรับการบริหารคอนเทนต์ใหม่ ส่งผลให้สปอนเซอร์พอใจมากขึ้น เพราะเข้าถึงคนดูได้มากขึ้น เชื่อว่าจะเป็นโอกาสในการเพิ่มสปอนเซอร์เข้ามาได้อีกมาก
นายเชิดศักดิ์ กล่าวต่อว่า จะเห็นได้ว่าปีที่ผ่านมาซีทีเอชมีสมาชิกเพียง 5 แสนรายต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก เนื่องจากพบว่าเคเบิลทีวีเป็นแพลททฟอร์มที่ขยายตัวได้ช้าสุด เมื่อเทียบกับแพลทฟอร์มอื่นๆ ส่งผลให้ปีนี้บริษัทจะเน้นการเข้าถึงสมาชิกด้วยแพลทฟอร์มอื่นๆเป็นหลัก พร้อมบริหารคอนเทนต์ให้สร้างรายได้มากสุด โดยในส่วนของเคเบิลเองนั้น จากเดิมที่มีสมาชิกจากเคเบิลโอปอเรเตอร์กว่า 170 ราย จะลดลงเหลือ 100 ราย เพื่อสะดวกต่อการดำเนินธุรกิจ และการเพิ่มฐานสมาชิก ด้วยแพกเกจที่เหมาะสม
"ต้องยอมรับว่า 170 เคเบิลโอปอเรเตอร์ที่มีอยู่ ต่างก็มีฐานสมาชิกที่มีการเรียกเก็บค่าสมาชิกแตกต่างกัน รวมถึงศักยภาพในการขยายโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกของแต่ละราย เราจึงต้องเลือกสมาชิกที่มีศักยภาพที่พร้อมจะก้าวไปพร้อมๆกับซีทีเอชก่อน เลือกสมาชิกที่มีฐานสมาชิกพร้อมจ่ายค่าแพกเกจตามที่ซีทีเอชจัดขึ้นมา ส่วนสมาชิกที่เหลือยังคงอยู่ โดยให้สมาชิกเหล่านั้นมีความพร้อมมากกว่านี้ก่อนจึงจะมีการร่วมมือกันต่อไป"
อย่างไรก็ตามในส่วนของการลงทุน ปีนี้จะเน้นเรื่องของคอนเทนต์เป็นหลัก รวมกว่า 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกปีละ 100 ล้านยูเอสดอลล่าร์ และคอนเทนต์อื่นๆอีก 1,500 ล้านบาท โดยในส่วนของโครงสร้างต่างๆ ตามก้าวต่อไปของซีทีเอชนั้น ช่วงปลายปีนี้จะได้เห็นบริการใหม่ๆเกิดขึ้น เช่น อินเทอร์เน็ต และไอพีทีวี เป็นต้น โดยในปีหน้าซีทีเอชจะก้าวสู่ความเป็นบรอดแบนด์เต็มรูปแบบ ส่วนการก้าวสู่ความเป็นทริปเปิ้ลเพย์ และควอดเพย์ยังอยู่ในแผนแต่อาจจะล้าช้าออกไป จนกว่าซีทีเอชจะมีฐานสมาชิกที่แข็งแกร่งกว่านี้
โดยในปีหน้ามั่นใจว่า จะมีฐานสมาชิกจากแพลทฟอร์มซีทีเอชได้ 1.5 ล้านราย และเป็นปีที่มีเริ่มมีกำไร จากเป้าหมายในปีนี้ที่คาดว่าจะเริ่มคุ้มทุนด้วยรายได้ไม่ต่ำกว่า 5,000-6,000 ล้านบาท โดยกว่า 1 ใน 6 หรือราว 1,000 ล้านบาท ของรายได้มาจากการบริหารคอนเทนต์ และในจำนวนดังกล่าวกว่า 800 ล้านบาท มาจากการบริหารคอนเทนต์พรีเมียร์ลีก