ก้าวสู่ยุคเปลี่ยนถ่ายวงการโทรทัศน์ไทย “จีเอ็มเอ็ม แซท” ขยายสู่เฟสสอง ทุ่ม 2,000 ล้านบาท ลุยปี 57 บุกเพย์ทีวีเต็มสูบ เปิดตัว 2 แพกเกจ ราคาเบาๆ เจาะลูกค้าระดับล่างถึงกลาง คาดดันรายได้โตขึ้นเท่าตัวทะลุ 2,000 ล้านบาท พร้อมยอดขายกล่องอีก 1 ล้านกล่อง กวาดฐานผู้ชมได้ 3.3 ล้านราย
นายฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มงานแพลตฟอร์ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ในปี2557 บริษัทพร้อมลงทุนในเฟส 2 สำหรับธุรกิจทีวีดาวเทียมบนแพลตฟอร์มกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 50% สำหรับการซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ และอีก 50% ในการบริหารจัดการต่างๆ สู่ธุรกิจเพย์ทีวี ด้วย 2 แพเกจ คือ 1. โกลด์ แพกเกจ ราคา 199 บาทต่อเดือน รวมทั้งสิ้น 240-250 ช่อง ซึ่งได้ร่วมทำแคมเปญกับทางAIS ด้วยราคา 1,499บาท/ปี เฉลี่ยวันละ 5 บาท 2. แพลทินัมแพกเกจ ราคา 499 บาทต่อเดือน รวม 270 ช่อง มั่นใจว่าจะมีฐานสมาชิกแบบเพย์ทีวีกว่า 3-4 รายในปี 57 จากปัจจุบันอยู่ที่ 1 แสนราย
“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ จะเน้นการนำแพลตฟอร์มจีเอ็มเอ็ม แซท ให้เข้าถึงครัวเรือนมากที่สุด ปัจจุบันมีฐานผู้ชมกว่า 2.3 ล้านกล่อง โดยปีนี้สามารถขายกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท ได้ราว 1 ล้านกล่อง ส่วนในปีหน้าตั้งเป้าว่าจะสามารถขายเพิ่มได้อีก 1 ล้านกล่อง รวมแล้วในปีหน้าเชื่อว่าจะมีฐานผู้ชมกว่า 3.3 ล้านกล่อง ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นการลงทุนในเฟส 2 เน้นเรื่องของเพย์ทีวีเป็นหลัก เบื้องต้นนำเสนอ 2 แพกเกจในราคาที่คุ้มค่าเข้าถึงกลุ่มผู้ชมระดับล่างถึงระดับกลาง และในปีหน้าเตรียมนำเสนอช่องเฮชดีเป็น 40 ช่อง จากปัจจุบันมีอยู่ 10 ช่อง ซึ่งจะมีการนำเสนอแพกเกจใหม่เข้ามาอีกอย่างน้อย 1 แพกเกจ ตามความเหมาะสม
ขณะที่ในแง่รายได้ถึงสิ้นปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะทำได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 1,000-1,500 ล้านบาท มาจากการขายกล่อง 70% และเพย์ทีวี 30% ส่วนในปีหน้าสัดส่วนรายได้จะเปลี่ยนเป็น 50% และในอนาคตเพย์ทีวีจะก้าวขึ้นมาเป็นรายได้หลักต่อไป”
นายฟ้าใหม่กล่าวด้วยว่า ปีหน้าจะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงทางด้านบรอดคาสติ้งของประเทศไทย โดยเฉพาะในเรื่องดิจิตอลทีวีที่จะเกิดขึ้น ถือเป็นโอกาสของทางแพลตฟอร์มกล่อมจีเอ็มเอ็ม แซท เพราะถือเป็นแพลตฟอร์มเดียวที่ยืนยันว่าผู้ชมทั่วประเทศสามารถรับชมช่องดิจิตอลทีวีที่จะเกิดขึ้นอีก 48 ช่องได้อย่างครบถ้วนทั้งแบบสแตนดาร์ด และแบบเอชดี พร้อมรับชมช่องรายการต่างๆ ทางกล่องจีเอ็มเอ็ม แซทได้ครบกว่า 200 ช่องด้วย ที่สำคัญช่วงปลายปีนี้เป็นช่วงขายสินค้า เชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนมาใช้โทรทัศน์ในคุณภาพที่สูงขึ้น และเข้าสู่การเปลี่ยนมาเลือกใช้แพลตฟอร์มการรับชมช่องรายการต่างๆ ที่คมชัดตามไปด้วย
โดยมองว่าทีวีดาวเทียมมีแนวโน้มเติบโตสูง โดยเฉพาะทีวีดาวเทียมบนแพลตฟอร์มเพย์ทีวี เนื่องจากราคารับชมที่ไม่สูงมาก และมีช่องรายการคุณภาพให้รับชมหลากหลาย คาดว่าภายใน 10 ปี ธุรกิจเพย์ทีวีในทุกแพลตฟอร์มจะเพิ่มเป็น 50% ของธุรกิจบรอสคาสติ้งได้ และมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นได้อีกหลังจากนั้น
ด้านนายเดียว วรตั้งตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มงานแพลตฟอร์ม และสปอนเซอร์ชิพ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวเสริมว่า ในปี 2557 ธุรกิจบรอสคาสติ้งอาจจะยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนมากนัก เพราะอยู่ในช่วงการเปลี่ยนถ่ายจากระบบสแตนดาร์ดเป็นดิจิตอลทีวี และพอเข้าสู่ปี 2558 เมื่อทุกอย่างนิ่ง จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพทีวีดาวเทียมที่จะมีความเป็นเอ็กซ์คลูซีฟสู่แพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งมากขึ้น จากเดิมเป็นฟรีทูแอร์ รวมถึงช่องรายการทางทีวีดาวเทียมจะหายไปกว่าครึ่งจากปัจจุบันมีอยู่ราว 200 ช่อง จากมาตรการความเข้มงวด และการออกกฎข้อบังคับของทาง กสทช. ส่งผลให้หลังจากนี้ทิศทางของบรอดคาสติ้งจะเข้าสู่ยุคของเพย์ทีวี การแข่งขันจะสู้กันที่เรื่องของคอนเทนต์เป็นหลัก
ในส่วนของจีเอ็มเอ็ม แซท มีความพร้อมรองรับทั้งแพลตฟอร์มที่รองรับดิจิตอลทีวีได้ คอนเทนต์ที่มีคุณภาพ เอ็กซ์คลูซีฟทั้งไทยและเทศ ที่สำคัญปัจจุบันจีเอ็มเอ็ม แซท เป็นผู้เช่าช่องสัญญาณดาวเทียม หรือทรานสปอนเดอร์ รายใหญ่ที่สุดของไทยคม 6 จึงมีช่องสัญญาณเพียงพอในการรองรับการส่งสัญญาณช่องทีวีดิจตอลรวม 36 ช่องทั้งประเภทสาธารณะ 12 ช่อง และบริการธุรกิจ 24 ช่อง ทั้งการส่งสัญญาณระบบซีแบนด์ S1 ในกล่องรุ่นเก่า และซีแบนด์ S2 กล่องรุ่นเอชดี รวมทั้งระบบเคยูแบนด์ ในกล่องจีเอ็มเอ็ม แซทที่มีอยู่ในตลาดทุกรุ่น ดังนั้น หากโครงข่าย (Mux) ส่งสัญญาณดิจิตอลทีวีไม่ครบทุกระบบของกล่องรับสัญญาณ แต่กล่องจีเอ็มเอ็ม แซททุกรุ่นสามารถรับชมได้ จึงถือเป็นจุดเด่นของกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท ในการทำตลาดปีหน้า
