ASTVผู้จัดการรายวัน - เปิดเกมโค้งสุดท้ายเดือน ส.ค. ศึกเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมเดือดสุด งัดลูกเล่น โปรโมชันเต็มที่ ซีทีเอชโวได้ฐานลูกค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านราย ทรูวิชั่นส์ผุดกล่องสกัดพรีเมียร์ซีทีเอช “ทรูทีวี บาย พีเอสไอ” แกรมมี่โวปล่อย 2 แพกเกจต่ำสุดในตลาด อาร์เอสชูกล่องอาร์เอส ซูเปอร์โกลด์ ตบท้ายตาอยู่ “พีเอสไอ” พุ่งชนคอนเทนต์หลายค่าย
โค้งสุดท้ายปลายเดือนสิงหาคมสู่ฤดูกาลแข่งขันกีฬาดังระดับโลกแทบทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นการคิกออฟของการแข่งขันฟุตบอลดังอังกฤษพรีเมียร์ลีก เปิดเกมฟุตบอลลาลีกา สเปน และกีฬาดังอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเทนนิส แบดมินตัน รวมถึงวอลเลย์บอล และลีกกีฬาที่ทัพนักกีฬาไทยกำลังแข่งขัน
วินาทีนี้จึงถือเป็นช่วงการแข่งขันที่ดุเดือดที่สุดของตลาดกล่องรับสัญญาณดาวเทียมในทุกแพลตฟอร์ม ทั้งแพลตฟอร์มเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมในรูปแบบบอกรับสมาชิกและแบบขายขาด ทั้งนี้ก็เพื่อชิงฐานสมาชิกให้ได้มากที่สุด
***ซีทีเอชขยับช้า เหตุติดตั้งไม่ทัน***
กระแสความร้อนแรงของตลาดเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมเริ่มสั่นสะเทือน เมื่อบริษัท ซีทีเอช จำกัด คว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 3 ปีมาได้ เริ่มตั้งแต่2556/2557, 2557/2558 และ 2558/2559 จากเดิมที่ทรูวิชั่นส์ผูกขาดลีกนี้มาโดยตลอด ซึ่งแผนการทำตลาดของซีทีเอชจะเริ่มได้ก็ต่อเมื่อสัญญาของทรูวิชั่นส์หมดลงตามฤดูกาลแข่งขันที่จบลงในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้นซีทีเอชจึงมีเวลาทำตลาดเพียง 3 เดือนก่อนเข้าสู่ฤดูกาลแข่งขันครั้งใหม่ในช่วงปลายเดือน ส.คนี้
แน่นอนว่าระยะเวลากว่า 3 เดือนอาจจะไม่มากและไม่น้อยจนเกินไปในแง่ของการทำตลาด แต่ความหนักใจคือการสื่อสารทางการตลาดที่พลาดไปเล็กน้อยด้วยโปรโมชันแคมเปญราคาแพกเกจที่เสนอออกมาที่ 599 บาทต่อเดือนไม่ชัดเจนในระยะแรก
นายวันชัย ศรีสุชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท ซีทีเอช (จำกัด) กล่าวว่า เดือน ส.ค.พบว่ายอดจองการติดตั้งกล่องซีทีเอชทางโทรศัพท์เพิ่มขึ้นจากวันละ 2,000-3,000 คนต่อวันเป็น 7,000 คนต่อวัน ทำให้ไม่สามารถติดตั้งได้ทันตามความต้องการ โดยขณะนี้มียอดจองรวมกว่า 5 แสนราย สามารถติดตั้งได้แล้ว 3 แสนราย ถึงสิ้นเดือน ส.ค.น่าจะติดตั้งได้แล้วเสร็จ ทั้งนี้ กว่าครึ่งหนึ่งเป็นสมาชิกใหม่และอีกครึ่งเป็นสมาชิกเดิมที่ต้องการเปลี่ยนกล่องมารับชมพรีเมียร์ลีก โดยฐานลูกค้าใหม่นั้นกว่า 50% ซื้อแพกเกจรับชมพรีเมียร์ลีกแบบเดือนต่อเดือน และอีก 50% ซื้อแบบ 24 เดือนดูฟรีอีก 1 เดือน
คำกล่าวนี้สอดคล้องกับ นายกฤษณัน งามผาติพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด ที่กล่าวไว้ว่า แพกเกจที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากที่สุดคือแพกเกจ 3 ปีที่มีราคา 599 บาท แต่จ่ายเพียง 24 เดือนสามารถดูได้นาน 36 เดือน
ส่วนแพกเกจที่ได้รับความนิยมรองลงมาคือแพกเกจปีต่อปีที่มีราคา 748 บาท จ่ายเพียง 10 เดือนแต่ดูได้นาน 12 เดือน แพกเกจโปรโมชันพิเศษนี้จะจบลงในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ หลังจากนั้นจะเป็นแบบปกติ
แต่ก็ยังมั่นใจว่าจะมีสมาชิก 3.3 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ แบ่งเป็นสมาชิกเก่า 1 ล้านราย และสมาชิกใหม่ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านราย โดยคาดว่ามีรายได้ไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท
***ทรูวิชั่นส์ส่งกล่องทรูทีวีจับแมส
ด้านบริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หลังเสียพรีเมียร์ลีกไปก็ได้แก้เกมโดยการกว้านซื้อลีกกีฬาดังๆ แทบทุกประเภทมาไว้ในมือ พร้อมวางตัวเองเป็น “คิงส์ ออฟ สปอร์ต” เพราะเชื่อว่าคนไทยไม่ได้ชมแค่พรีเมียร์ลีกอย่างเดียว แต่ยังต้องการรับชมกีฬาต่างๆ และรายการอื่นๆ ด้วยเช่นเดียวกัน และนั่นถือเป็นแผนการตลาดที่ใช้รักษาฐานสมาชิกระดับพรีเมียมไว้ให้มากที่สุดถึงแม้จะต้องสูญเสียฐานพรีเมียร์ลีกไปกว่า 10,000 รายก็ตาม
ล่าสุดทรูวิชั่นส์ปล่อยหมัดเด็ด ไม่ว่าจะเป็นการจับมือกับอาร์เอสดึงลาลีกาในรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์สู่ทรูวิชั่นส์ โดยสามารถรับชมได้ทั้งแบบช่อง SD และแบบ HD และจับมือกับพีเอสไอเปิดตัว “TRUE TV by PSI” ซึ่งเป็นกล่องรับสัญญาณแบบขายขาดไม่เสียรายเดือน ราคากล่องละ 1,090 บาท เริ่มขายตั้งแต่ 1 ก.ย.นี้
นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ คือ 1. มีช่องรายการแบบฟรีทูแอร์ให้รับชมรวมกว่า 120 ช่อง แบ่งเป็นมาจากทรูวิชั่นส์ 71 ช่อง และจากพีเอสไอ 56 ช่อง 2. สามารถดูทีวีแบบเติมเงิน โดยจะได้รับชมช่องรายการจากทรูวิชั่นส์ในโนวเลจแพกเกจเพิ่มอีก 17 ช่อง ในเดือน ต.ค.นี้จะเพิ่มเป็น 20 ช่อง ราคาแพกเกจเติมเงินเริ่มตั้งแต่ 10 บาทต่อวัน รวมถึงมีแพกเกจเติมเงินเพื่อเลือกดูเฉพาะบางช่องในราคา 100 บาทต่อเดือน และ 3. สามารถดูได้ทั้งทางทีวี และสมาร์ทดีไวซ์ จากบริการทรูวิชั่นส์ เอนิแวร์ เริ่มต้นที่ 70 ช่อง
กลยุทธ์ที่ทางทรูวิชั่นส์นำเสนอในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการรุกฐานลูกค้าระดับเดียวกับทางซีทีเอชแล้ว ยังพร้อมนำเสนอราคาแพกเกจที่ถูกกว่าและเป็นทางเลือกที่น่าสนใจให้แก่ลูกค้าด้วย ซึ่งในกล่องนี้ผู้ชมยังสามารถซื้อช่องลาลีกาได้ และยังดูไทยพรีเมียร์ลีกทางช่องกีฬาของทรูวิชั่นส์ได้อีกด้วย โดยตั้งเป้ายอดขายในช่วง 1 ปีแรกนี้ที่ 5 แสนกล่อง
***แกรมมี่ชู 2 แพกเกจ ต่ำสุดในตลาด
นายฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ทางบริษัทได้ใช้งบกว่า 1.5-2 พันล้านบาทสำหรับซื้อคอนเทนต์รายการต่างๆ เข้ามาเพิ่ม ล่าสุดยังได้ปรับราคาแพกเกจการรับชมแบบเพย์ทีวีออกเป็น 2 ราคา คือ 1. โกลด์แพกเกจ ราคา 199 บาทต่อเดือน และถ้าซื้อแบบรายปีจะอยู่ที่ราคา 1,499 บาท เฉลี่ยตกเดือนละ 125 บาท ซึ่งสมาชิกจะได้รับชม 10 ช่อง SD+3 ช่อง HD+4 ช่อง ฟรีทูบ็อกซ์+11 ช่อง จีเอ็มเอ็ม+220 ช่อง ฟรีทูแอร์ รวมแล้วดูได้กว่า 150 ช่อง
2. แพลทินัมแพกเกจ ราคา 499 บาทต่อเดือน และถ้าซื้อแบบรายปีจะอยู่ที่ราคา 4,990 บาท เฉลี่ยตกเดือนละ 415 บาท ซึ่งสมาชิกจะได้รับชม 27 ช่อง SD+7 ช่อง HD+4 ช่อง ฟรีทูบ็อกซ์+11 ช่อง จีเอ็มเอ็ม+220 ช่อง ฟรีทูแอร์ รวมแล้วดูได้กว่า 270 ช่อง และสำหรับลูกค้าเดิมที่ใช้บริการสปอร์ตแพกเกจ และเอนเตอร์เทนเมนต์แพกเกจอยู่ก่อนแล้วจะถูกปรับขึ้นมาเป็นโกลด์แพกเกจ ซึ่งลูกค้าจะได้รับประโยชน์ในการรับชมช่องรายการได้เพิ่มขึ้นจากเดิม
โดยทั้งสองราคานี้เมื่อเทียบกับช่องรายการคุณภาพแบบช่องต่อช่องแล้วถือเป็นแพกเกจราคาที่ต่ำสุดของตลาดเพย์ทีวี และในขณะนี้ทางบริษัทยังได้จัดโปรโมชันการขายกล่องจีเอ็มเอ็มรุ่น Smart ไว้ที่ราคา 1,200 บาท และหากซื้อพร้อมโกลด์แพกเกจจะอยู่ที่ราคา 1,999 บาท ส่วนกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท รุ่น HD ที่ซื้อพร้อมโกลด์แพกเกจ จะอยู่ที่ราคา 2,999 บาท คาดว่าถึงสิ้นปีจะมีฐานสมาชิกที่รับชมแบบเพย์ทีวีราว 1-1.5 แสนคน แบ่งเป็น 50% เท่าๆ กันจากทั้งสองแพกเกจ
***อาร์เอสยันปล่อยกล่องซันบ็อกซ์เพิ่มฐานลาลีกา
และในจำนวนผู้ที่เข้าสู่ตลาดกล่องรับสัญญาณดาวเทียม ดูจะมีแค่อาร์เอสที่วางโมเดลเป็นคอนเทนต์โพรวายเดอร์มากกว่าจะเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม ดังนั้นกล่องซันบ็อกซ์จึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นช่องทางให้คนไทยได้รับชมลาลีกาเท่านั้น
นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการทำตลาดของลาลีกาในปีนี้จะเน้น 3 ช่องทางหลักในการสร้างรายได้ คือ 1. โฆษณา 15% 2. ลิขสิทธิ์ 65% และ 3. ขายกล่องซันบ็อกซ์ 25% โดยในแง่ของลิขสิทธิ์ได้ขายให้ทางทรูวิชั่นส์แบบเอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์ รวมถึงจับมือกับทางพีเอสไอโดยการเปิดตัวกล่อง “พีเอสไอ โอทู ดิจิตอล” ราคา 2,490 บาท ที่ลูกค้าสามารถรับชมลาลีกาฟรีตลอดฤดูกาลนี้ เชื่อว่าจะมีฐานลูกค้ากว่า 1 ล้านกล่อง
ส่วนแผนการขายกล่องซันบ็อกซ์นั้น ปีนี้พร้อมเปิดตัวกล่อง SUN BOX SUPER GOLD อีก 1 รุ่น ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,390 บาท ภายใต้กลยุทธ์ส่งเสริมการขายกับแคมเปญ “ท่องเที่ยวไทย” มั่นใจว่าจะขายได้อีก 3 แสนกล่อง ขณะที่ปีหน้าจะไม่มีการขายกล่องอีกแล้ว จะเน้นเฉพาะรายได้จากการขายลิขสิทธิ์และโฆษณาเท่านั้น รวมแล้วตลอด 3 ฤดูกาลเชื่อว่าจะมีรายได้กว่า 2,000 ล้านบาทตามเป้า
***พีเอสไอมุ่งจับมือพันธมิตรเพิ่มยอดขายกล่อง***
จากจำนวนผู้เล่นในตลาดจานและกล่องรับสัญญาณดามเทียมทั้งหมด พีเอสไอถือเป็นรายใหญ่สุดในตลาด แต่กลับเป็นผู้เล่นที่มุ่งทางด้านฮาร์ดแวร์มากกว่าซอฟต์แวร์หรือคอนเทนต์ ดังจะเห็นได้ว่าพีเอสไอไม่มุ่งซื้อคอนเทนต์เข้ามาเป็นแม่เหล็กเพิ่มยอดขาย แต่จะใช้กลยุทธ์จับมือกับพันธมิตรด้านคอนเทนต์ ดึงเข้ามาร่วมในกล่องพีเอสไอ แล้วทำโปรโมชันการขายเป็นหลัก
นายสมพร ธีระโรจนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า บริษัทถนัดในเรื่องฮาร์ดแวร์มากกว่า จึงมุ่งจับมือกับพันธมิตรดึงคอนเทนต์มาไว้ในกล่อง เช่น จับมือกับทรูวิชั่นส์ เปิดตัวกล่องทรูทีวี บาย พีเอสไอ ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 5 แสนกล่อง นอกจากนี้ยังจับมือกับอาร์เอสเปิดตัวกล่อง พีเอสไอ โอทู ดิจิตอล ชูลาลีกาเป็นคอนเทนต์พิเศษรับชมฟรีตลอดฤดูกาล ตั้งเป้ายอดขาย 1ล้านกล่อง ซึ่งจากแผนการดำเนินงานในรูปแบบนี้เชื่อว่าถึงสิ้นปีพีเอสไอจะเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศได้ราว 3-4 ล้านครัวเรือน