ASTVผู้จัดการรายวัน - เคราะห์ซ้ำ กรรมซัด ซูเปอร์มาร์เกตหลายแห่งในยุโรประงับการซื้อสินค้าประเภทกุ้งจากซีพีเอฟ ด้านผู้บริหารยันเร่งทำความเข้าใจลูกค้า มั่นใจภายใน 2-3 เดือนข้างหน้าปัญหาคลี่คลาย ชี้ผลกระทบจากการหยุดซื้อสินค้ากุ้งไม่มากแค่ 300-400 ล้านบาท เนื่องจากห้างใหญ่อย่างวอลล์มาร์ท เทสโก้ และคอสโก้ยังเชื่อมั่นสั่งซื้อสินค้ากุ้งไทยอยู่
วันนี้ (17 ก.ค.) มีรายงานว่าซูเปอร์มาร์เกตในยุโรปหลายแห่งได้ระงับการซื้อและวางจำหน่ายสินค้ากุ้งจากซีพี เช่น Carrefour ของฝรั่งเศส Aldi ของเยอรมนี Delhaize และ Colryte ของเบลเยียม Mercadona ของสเปน และ ICA ของนอร์เวย์
ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ ณ กรุงมาดริด รายงานว่า ซูเปอร์มาร์เกต Mercadona และ Carrefour ได้ยกเลิกการสั่งซื้อกุ้ง และปลาแช่แข็งจากซีพีเอฟตั้งแต่ 30 มิ.ย. 2557 ที่ผ่านมา ขณะที่สินค้าประมง และสินค้าอื่นๆ ของบริษัทไทยอื่นๆ ไม่ได้รับผลกระทบ
นายพิสิฐ โอมพรนุวัฒน์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ สายธุรกิจการค้าต่างประเทศ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างหารือ ทำความเข้าใจกับลูกค้าซูเปอร์บางรายในสเปน ฝรั่งเศส และหลายประเทศในอียู ซึ่งหลายประเทศที่เจ้าหน้าที่บริษัทฯ ได้เข้าไปอธิบายแล้วพบว่ามีแนวโน้มในเชิงบวก มั่นใจว่าภายใน 2-3 เดือนนี้ปัญหาดังกล่าวน่าจะคลี่คลาย
“เรื่องนี้บริษัทฯ ไม่ซีเรียส เพราะบริษัทฯ ได้มีการเจรจากับลูกค้ารายใหญ่แล้ว ซึ่งห้างใหญ่หลายรายเข้าใจและเชื่อมั่นผลิตภัณฑ์กุ้งไทยยังสั่งซื้อสินค้าอยู่ เช่น วอลล์มาร์ท เทสโก้ และคอสโก้ โดยห้างเหล่านี้จะเดินทางเข้ามาดูกระบวนการผลิตเพื่อสร้างความเชื่อมั่นอีกทางหนึ่งในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกระแสโลกมาอย่างนี้ สมาคมเรือประมงไทยก็ต้องช่วยตรวจสอบกันเองเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้”
นอกจากนี้ ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็เอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ มีการทำความเข้าใจกับนานาชาติ ตรวจสอบและควบคุมแรงงานต่างด้าวให้ทำงานอย่างถูกกฎหมายเพื่อไม่ให้มีปัญหาการใช้แรงงานทาสในอุตสาหกรรมประมงไทย ซึ่งที่ผ่านมาซีพีเอฟมีการซื้อผลพลอยได้จากปลาทูน่าและปลาป่นที่มาจากเรือประมงที่ไม่ใช้แรงงานทาส
นายพิสิฐกล่าวต่อไปว่า ซีพีเอฟส่งออกสินค้ากุ้งไปตลาดอียูปีละ 6,000-8,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 3,000-4,000 ล้านบาท โดยผลกระทบจากการหยุดซื้อสินค้ากุ้งจากซีพีเอฟของบางห้างหรือร้านค้ารายย่อยในหลายประเทศในอียูในช่วงที่ผ่านมาไม่มากอยู่ที่ 300-400 ล้านบาท เพราะห้างใหญ่ในอังกฤษ และฟูดส์เซอร์วิสในอียูก็ยังซื้อสินค้ากุ้งจากบริษัทอยู่