“ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์” ดัมป์ราคา 2,990 บาทต่อที่นั่ง บินตรงญี่ปุ่น 2 จุด จากดอนเมือง-โตเกียว และโอซากา แค่ 5หมื่นที่นั่ง เปิดจอง 7 ก.ค.-13 ก.ค.นี้ เชื่อผลตอบรับดีกว่าเส้นทางเกาหลี ตั้งเป้า Cabin Factor เฉลี่ย 90% เล็งเปิดฮอกไกโด พร้อมเช่าเครื่องบินเพิ่มอีก 1 ลำ ไม่หวั่น “นกสกู๊ต” จ่อเปิดบินทับเส้นทาง เชื่อแบรนด์และการเชื่อมต่อเหนือกว่า คาดทั้งปีขนผู้โดยสาร 2 แสนคน มีรายได้พันล้านบาท
นายนัดดา บุรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เปิดเผยว่า จากผลตอบรับที่ดีมากในการเปิดบินเส้นทางกรุงเทพฯ-เกาหลี เที่ยวบินแรก เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน โดยมีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) 100% และตลอดเดือนมี Cabin Factor เฉลี่ยถึง 90% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 80% ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้เป็นต้นไปไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์จะเปิดเส้นทางบินเพิ่มจากกรุงเทพฯ ไปยังประเทศญี่ปุ่นใน 2 จุดบิน คือ ดอนเมือง-โตเกียว (สนามบินนาริตะ) ทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน และดอนเมือง-โอซากา (สนามบินคันไซ) 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เปิดตัวราคาเริ่มต้นที่ 2,990 บาทต่อที่นั่ง (รวมภาษีสนามบินแล้ว) จำนวน 5 หมื่นที่นั่ง โดยเปิดจองราคานี้ตั้งแต่ 7 กรกฎาคม-13 กรกฎาคมนี้เท่านั้น
ทั้งนี้ มั่นใจว่าเส้นทางญี่ปุ่นจะได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยตั้งเป้าหามาย Cabin Factor ช่วง 3 เดือนแรกเฉลี่ยที่ 90% เพราะญี่ปุ่นเป็นเป้าหมายการเดินทางของคนไทยจำนวนมาก และด้วยเครื่องบินบริการและราคาเปิดตัวประกอบกัน โดยบริการ Fly Thru จะเพิ่มความสะดวกในการต่อเครื่องไปยังจุดบินอื่นมากขึ้น โดยคาดว่าในแต่ละเที่ยวบินจะมีผู้โดยสารใช้บริการ Fly Thru ประมาณ 35% ซึ่งจากรายงานขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) ระบุว่าปี 2556 คนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นถึง 453,600 คน สูงกว่าปี 2555 ถึง 74% โดยช่วง 5 เดือนแรกปี 2557 (ม.ค.-พ.ค.) คนไทยไปญี่ปุ่นแล้วถึง 294,300 คน เพิ่มขึ้น 62.3% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนโยบายยกเว้นวีซ่าให้คนไทย ส่วนคนญี่ปุ่นเดินทางมาเที่ยวไทยปี 2556 ถึง 1.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ถึง 11.9%และแม้ในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ไทยจะมีสถานการณ์ทางการเมืองแต่คาดว่าจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง
นายนัดดากล่าวว่า เป้าหมายปี 2557 ของไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (เปิดบริการระยะ 6 เดือน ช่วง มิ.ย.-ธ.ค.) จะมีจำนวนผู้โดยสารรวมประมาณ 2 แสนคน มีรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท สำหรับจุดบินต่อไปหลังจากนี้ คือฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากมีศักยภาพสามารถเที่ยวได้เกือบตลอดทั้งปี และมีอาหารทะเล และช็อกโกแลต ที่เป็นจุดดึดดูดนักท่องเที่ยวไทย โดยจะประเมินผลเส้นทางกรุงเทพฯ-โตเกียว, โอซากา ประมาณ 1 เดือนก่อน จากนั้นจะพิจารณาตัดสินใจเปิดเส้นทางบินเพิ่มหรือไม่ รวมถึงต้องมีการเช่าเครื่องบิน แอร์บัส เอ 330-300 เพิ่มอีก 1 ลำ เพื่อให้หมุนเวียนเพียงพอต่อการให้บริการ จากปัจจุบันที่มี 2 ลำ โดยเบื้องต้นได้มีการหารือกับทางแอร์บัสไว้แล้ว และคาดว่าภายในปี 2558 จะมีเครื่องบินลำที่ 4 เพิ่มเข้ามาซึ่งจะสามารถเปิดจุดบินไปยังประเทศอื่นได้เพิ่ม เช่น เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เป็นต้น
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า สายการบินนกสกู๊ตจะเปิดบินเส้นทางเกาหลีและญี่ปุ่นช่วงปลายปี 2557 นั้น นายนัดดากล่าวว่า การมีคู่แข่งเพิ่มเข้ามาถือเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคที่จะได้รับบริการที่หลากหลาย ส่วนไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์จะต้องทำราคาที่ประหยัดที่สุดเพื่อแข่งขัน ซึ่งทั้งแบรนด์ที่แข็งแกร่งของไทยแอร์เอเชีย และเครือข่ายการเชื่อมต่อไปยังจังหวัดใหญ่ในประเทศไทย เช่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต และประเทศในภูมิภาคอาเซียน เช่น กัมพูชา พม่า เวียดนาม ที่มีความสะดวกจะเป็นจุดแข็งที่เหนือกว่าคู่แข่งเพราะจะทำให้ผู้โดยสารได้รับความหลากหลายในการเดินทาง