“นกแอร์” ตั้งเป้าเพิ่มยอดระวางบรรทุกผู้โดยสารเพิ่มแตะ 80% หลังการเมืองคลี่คลาย นักท่องเที่ยวไหลกลับเข้ามาบินมากขึ้น เตรียมเสริมทัพเครื่องบินใหม่ อีก 8 ลำ รับนักท่องเที่ยวทะลักคาดทะลุ 7 ล้านคนจากปีที่แล้วที่ทำได้กว่า 5.8 ล้านคน แย้ม “นกสกู๊ต” คาดเปิดบินได้ปลายปี เปิดเส้นทางแดนปลาดิบ และโสมขาวตามรอยละคร
นายปัญญา ชุติสิริวงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.สายการบินนกแอร์ หรือ NOK กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าประมาณการอัตราระวางบรรทุกผู้โดยสาร หรือ Cabin Factor ในปีนี้จะอยู่ที่ 80% ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว เนื่องจากจะมีผู้โดยสารที่คาดว่าจะเริ่มกลับมาใช้บริการมากขึ้น หลังจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น โดยในปีนี้บริษัทฯ จะมีการเพิ่มเครื่องบินใหม่อีกจำนวน 8 ลำ โดยแบ่งเป็นเครื่องบินเจ็ท จำนวน 4 ลำ และเครื่องบินใบพัด ระวางบรรทุก 80 ที่นั่งอีก 4 ลำ
อย่างไรก็ตาม สัดส่วนผู้โดยสารปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีผู้โดยสารกว่า 5.8 ล้านคนมาแตะระดับที่ 7 ล้านคน หรือเติบโตขึ้นประมาณ 20% เนื่องจากในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีปริมาณผู้โดยสารแล้วประมาณ 1.77 ล้านคน และบริษัทได้เน้นเส้นทางบินใหม่ในต่างประเทศที่ได้รับการตอบรับที่ดี เช่น เส้นทางบินเมาะลำใย ประเทศพม่า และเส้นทางบินภายในประเทศที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก เช่น ในเส้นทางท่องเที่ยวภาคใต้
อย่างไรก็ตาม ในการร่วมทุนกับสายการบินสิงคโปร์ ภายใต้ชื่อ “นกสกู๊ต” ที่จะเริ่มเปิดเส้นทางการบินไปยังต่างประเทศได้ช่วงปลายปีนี้ ซึ่งบริษัทฯ จะให้บริการบินในเส้นทางประเทศญี่ปุ่น และเกาหลี ในช่วงแรก โดยในเส้นทางบินนี้จะมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ต้องการเข้ามาท่องเที่ยวยังประเทศไทยจำนวนมาก และนักท่องเที่ยวไทยที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศเหล่านี้สามารถเดินทางได้สะดวกในราคาประหยัดมากขึ้น
