ผู้ถือหุ้นรายย่อยการบินไทยโวยตั้ง “อำพน” นั่งบอร์ดอีกวาระ ชี้ทำขาดทุนถึง 2 ครั้ง เรียกร้องขอโทษผู้ถือหุ้นและไม่ให้กลับมาเป็นบอร์ดอีก ชี้เคยบอกเองว่าถ้าขาดทุนจะลาออก พร้อมเสนอลดจำนวนบอร์ดเหลือ 9 คน ลดค่าใช้จ่ายเบี้ยประชุม
วันนี้ (29 เม.ย.) เวลา 13.30 น. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2557 ณ ห้องประชุมชัยพฤกษ์ หอประชุมกองทัพอากาศ (อาคารทองใหญ่) โดยมี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นประธาน ซึ่งเมื่อเริ่มการประชุม เลขาฯ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้แจ้งกำหนดการประชุมและทำความเข้าใจถึงขั้นตอนการลงคะแนน โดยมีวาระพิจารณาแต่งตั้งกรรมการ โดยมีกรรมการครบวาระ 5 คน โดย 1 ใน 5 คือนายอำพน กิตติอำพน ซึ่งได้รับการเสนอชื่อกลับเข้ามาเป็นกรรมการต่ออีกวาระหนึ่ง พร้อมด้วย นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ นายสุธรรม ศิริทิพย์สาคร ส่วนกรรมการใหม่ 2 คน คือ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ (แทนนายสรจักร เกษมสุวรรณ) พลอากาศโท ศิวเกียรติ์ ชเยมะ (แทนนายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี)
โดยผู้ถือหุ้นรายหนึ่งได้เสนอให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยออกจากห้องประชุมเพื่อให้การประชุมดำเนินต่อไม่ได้ เพราะไม่อยากเป็นเครื่องมือในการตั้งกรรมการบอร์ดตามวาระ ซึ่งทางกระทรวงการคลังได้ใช้สิทธิผู้ถือหุ้นใหญ่เสนอชื่อเข้ามาแล้ว ถึงแม้ผู้ถือหุ้นรายย่อยจะคัดค้านอย่างไรก็ไม่มีผล โดยขอให้ประธานทบทวนจำนวนกรรมการบอร์ดการบินไทยที่มีถึง 15 คนว่าควรลดเหลือ 9 คนเพื่อลดภาระค่าเบี้ยประชุมลงในภาวะที่บริษัทประสบการขาดทุนอย่างหนัก โดยยกตัวอย่างสิงคโปร์แอร์ไลน์ที่มีกรรมการบอร์ดบริหารเพียง 6 คน แล้วยังมีกำไรอีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นอีกรายได้เรียกร้องให้นายอำพน กิตติอำพน อดีตประธานบอร์ดการบินไทย ออกมาขอโทษผู้ถือหุ้น และลาออกจากกรรมการบอร์ดไป เพราะนายอำพนเป็นผู้ที่ทำให้บริษัทขาดทุนเป็นครั้งที่สองแล้ว ซึ่งนายอำพนเคยประกาศต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อปีที่มีการขาดทุนครั้งแรกว่าถ้าขาดทุนอีกครั้งจะลาออก แต่กลับได้รับการเสนอชื่อกลับมาเป็นกรรมการบอร์ดอีกวาระ ที่ผ่านมาการทำหน้าที่ประธานบอร์ดของนายอำพนได้สร้างปัญหาในองค์กร ทำให้พนักงานขาดขวัญและกำลังใจ ไม่รักษาประโยชน์ของบริษัท เช่น มีการทยอยซื้อเครื่องบินถึง 58 ลำแต่กลับขาดทุนเกือบทุกเส้นทางไม่ว่าเส้นทางบินใกล้หรือไกล เมื่อขาดทุนก็นำมาจอดไว้เฉยๆ ทำให้เสียค่าจอด เสียค่าซ่อมบำรุง และค่าต่อใบอนุญาตตามกฎการบิน เพราะการซื้อเครื่องบินใหม่ โดยไม่มีการเพิ่มเส้นทางหรือเพิ่มเที่ยวบินเพื่อเพิ่มรายได้ แต่กลับทำให้บริษัทมีรายจ่ายเพิ่มผูกพันระยะยาว ทำให้บริษัทขาดทุน อีกทั้งการซื้อเครื่องใหม่เพื่อทดแทนเครื่องเก่าแต่กลับขายเครื่องบินเก่าไม่ได้ต้องจอดทิ้งไว้ ยิ่งทำให้ขาดทุนซ้ำอีก
อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นรายย่อยมีความเห็นเป็น 2 ฝ่าย โดยส่วนใหญ่ต้องการให้ดำเนินการประชุมต่อตามวาระเพื่อรับฟังแนวทางในการแก้ปัญหาขาดทุน จากนั้นพลอากาศเอก ประจิน ประธานที่ประชุมได้ดำเนินการประชุมต่อตามวาระ