ทอท.ยอมรับพัฒนาดอนเมืองเฟส 2 ล่าช้า ปรับแผนเร่งให้เสร็จ เปิดใช้บางส่วนใน ต.ค. 57 “เมฆินทร์” เผยผู้โดยสารดอนเมืองโตก้าวกระโดด คาดปี 58 สูงถึง 23 ล้านคนต่อปี เร่งเปิดอาคาร 2 รับทันไม่มีปัญหา คาดหวังรายได้เชิงพาณิชย์โตตาม เหตุผลศึกษาค่าเช่าพื้นที่พุ่ง และทำสัญญาตรงกับผู้ประกอบการ ผอ.ดอนเมืองเตรียมเสนอลงทุนพัฒนาเฟส 3 อีก 7 พันล้าน ขยายเป็น 40 ล้านคนต่อปี
นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองในเฟส 2 ว่าจะเร่งรัดการปรับปรุงต่างๆ เพื่อให้เปิดให้บริการอาคาร 2 ได้ภายในเดือนตุลาคมนี้ จะสอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าในปี 2558 ผู้โดยสารที่ดอนเมืองจะเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 57 ประมาณ 25% หรืออยู่ที่ประมาณ 23 ล้านคนต่อปี และปี 59 จะเติบโตก้าวกระโดดเป็น 28 ล้านคนต่อปี ซึ่งจะทำให้ ทอท.มีรายได้เชิงพาณิชย์จากกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับการบิน (Non Aero) เพิ่มมากขึ้นด้วย เนื่องจากผลการศึกษาพบว่า พื้นที่ดอนเมืองมีมูลค่าสูงถึง 5,000-6,000 บาทต่อตารางเมตร โดย ทอท.จะบริหารจัดการพื้นที่เองทั้งหมด
ทั้งนี้ ทอท.จะบริหารท่าอากาศยานดอนเมืองควบคู่กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยดอนเมืองจะรองรับเที่ยวบินในประเทศ สายการบินต้นทุนต่ำ ขณะที่สุวรรณภูมิจะเป็นประตูของประเทศ เป็นเกตเวย์รองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งคาดว่าปี 58 ผู้โดยสารจะเติบโต 5-8% ในขณะที่ปัจจุบันมีผู้โดยสารประมาณ 51 ล้านคนต่อปี แบ่งเป็นผู้โดยสารต่างประเทศ 42 ล้านคน ในประเทศ 9 ล้านคน ซึ่งเต็มขีดความสามารถรองรับที่ 45 ล้านคนต่อปีแล้ว จึงจำเป็นต้องขยายสุวรรณภูมิเฟส 2 เพื่อรองรับผู้โดยสาร
“การปรับปรุงดอนเมืองใช้เงินลงทุนน้อยแต่ได้พื้นที่มากกว่า จึงอยากเร่งรัดให้เสร็จเร็วที่สุด เพราะหากที่สุวรรณภูมิติดขัดอะไรผู้โดยสารยังใช้ดอนเมืองได้ไม่มีปัญหา โดยตั้งเป้า ปี 59 ดอนเมืองและสุวรรณภูมิต้องรับผู้โดยสารได้ 100 ล้านคนต่อปี ปี 60-61 เมื่อสุวรรณภูมิเฟส 2 เสร็จจะรองรับเพิ่มเป็น 120 ล้านคนต่อปี” นายเมฆินทน์กล่าว
ด้านว่าที่ เรืออากาศโท จตุรงคพล สดมณี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง ทอท.กล่าวว่า จะเร่งรัดการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองระยะที่ 2 โดยในเดือนตุลาคม 57 จะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้บางส่วน เช่น เคาน์เตอร์เช็กอิน 4 แถว เป็นต้น จากนั้นจะทยอยแล้วเสร็จ คาดว่าอย่างช้าไม่เกินเดือนธันวาคม 57 ซึ่งล่าช้ากว่าแผนเดิมที่กำหนดจะเปิดในเดือนพฤษภาคม ซึ่งหลังจากเปิดอาคารผู้โดยสาร 2 สำหรับบริการผู้โดยสารภายในประเทศแล้ว จะปรับการให้บริการอาคาร 1 เป็นบริการผู้โดยสารระหว่างประเทศทั้งหมด ทำให้ดอนเมืองสามารถรองรับผู้โดยสารรวมได้เพิ่มจาก 18.5 ล้านคนต่อปีเป็น 30 ล้านคนต่อปี
ส่วนพื้นที่เชิงพาณิชย์ในอาคารผู้โดยสาร 2 นั้นมีประมาณ 24,000 ตารางเมตร ทอท.อยู่ระหว่างคัดเลือกที่ปรึกษาเข้ามาช่วยจัดสรรพื้นที่และกำหนดอัตราค่าเช่าต่างๆ คาดว่าภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมจะคัดเลือกผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ แล้วเสร็จและเริ่มให้เข้ามาปรับปรุงพื้นที่เตรียมทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป
ผอ.ท่าอากาศยานดอนเมืองกล่าวว่า หลังเปิดอาคารหลังที่ 2 จะเสนอแผนพัฒนาดอนเมืองเฟส 3 วงเงินลงทุน 7,000 ล้านบาทต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. เพื่อเสนอการลงทุนต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ต่อไป คาดว่าจะเป็นช่วงกลางปี 2558 และกำหนดแล้วเสร็จปี 59 โดยในเฟส 3 จะมีการปรับปรุงพื้นที่อาคารหลังที่ 1 ด้วย ดังนั้นจะไม่มีผลกระทบต่อการให้บริการเพราะเปิดอาคารหลังที่ 2 ให้บริการแล้ว
สำหรับการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองระยะที่ 3 เต็มรูปแบบ (Full Service) จะมีการปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออก ขยายไหล่ทางให้รองรับเครื่องบินแอร์บัส A 380, ขยายหลุมจอด A380 เพิ่มอีก 3 หลุมจอด รวมของเดิม 2 หลุมจอดเป็น 5 หลุมจอด ปรับปรุงระบบไฟฟ้าสนามบิน ปรับปรุงหลุมจอดอากาศยานจาก 102 หลุมจอดเป็น 120 หลุมจอด และปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคารคลังสินค้า 2, 3, 4 ก่อสร้างสะพานเทียบเครื่องบินใหม่ 8 ชุด, อาคารจอดรถใหม่ โดยจะเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้รวมเป็น 40 ล้านคนต่อปี