“คมนาคม” หารือคลัง สรุปตั้งบริษัทเอกชนบริหารระบบตั๋วร่วม ทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท โดยช่วงแรกจะตั้งเป็นหน่วยธุรกิจ (BU) ภายใต้ รฟม. ก่อนแปลงเป็นบริษัทเอกชน ส่วนศูนย์บริหารรายได้กลาง หรือ Clearing House คาด ส.ค.นี้ประมูลจบ ตั้งเป้าให้บริการได้เต็มรูปแบบ พ.ค. 58
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมที่มีนายสมชัย ศิริวัฒนโชค ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน วันนี้ (26 มิ.ย.) ได้มีการหารือร่วมกับ สนข. ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณารูปแบบการจัดตั้งองค์กรบริหารตั๋วร่วม โดยได้ข้อสรุปว่าในระยะเริ่มต้นจะจัดตั้งเป็นหน่วยธุรกิจ (BU) ภายใต้การดูแลของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลแห่งประเทศไทย (รฟม.) เนื่องจากเห็นว่า รฟม.เป็นผู้ดูแลรถไฟฟ้าโดยตรงและมีความพร้อมมากที่สุด จากนั้นจึงจะเปลี่ยนเป็นบริษัทเอกชน โดยมีภาครัฐร่วมถือหุ้นด้วย ซึ่งต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ (พ.ร.บ.ร่วมทุน) ทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องเปลี่ยนเป็นเอกชน เนื่องจากการบริหารตั๋วร่วมมีการแข่งขันสูง มีเรื่องการหารายได้ และการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้องมาก ดังนั้นองค์กรในรูปแบบเอกชนจะมีความคล่องตัวในการทำงานมากกว่าจัดตั้งเป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจที่มีระเบียบการทำงานหลายขั้นตอน
โดย สนข.จะเร่งพิจารณารายละเอียดการจัดตั้งองค์กรเอกชน สัดส่วนการถือหุ้นระหว่างรัฐกับเอกชนที่เหมาะสม และเสนอปลัดกระทรวงคมนาคมรับทราบภายในเดือนสิงหาคมนี้ หากได้รับความเห็นชอบก็จะดำเนินการประกวดราคาแบบนานาชาติ (International Bidding) ซึ่งคาดว่าภายในเดือนพฤษภาคม 2558 การจัดตั้งบริษัทบริหารตั๋วร่วมจะเสร็จสิ้นสามารถเปิดดำเนินงานได้
ส่วนการประกวดราคาโครงการจัดทำระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House : CCH) ระบบตั๋วร่วม วงเงิน 430 ล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเสนอทางเทคนิคของผู้ยื่นเอกสาร 4 ราย ซึ่งยอมรับการประกวดราคามีความล่าช้ากว่าที่คาดไว้ว่าจะเริ่มให้บริการตั๋วร่วมได้ช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากผู้ยื่นข้อเสนอแต่ละรายได้นำส่งเอกสารจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลาตรวจสอบให้รอบคอบ และคาดว่าการประกวดราคาจะเสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคมนี้ เริ่มทดสอบระบบการให้บริการเดือนกุมภาพันธ์ 2558 สามารถให้บริการเต็มรูปแบบเดือนพฤษภาคม 2558