xs
xsm
sm
md
lg

เผยเอสเอ็มอีไทยกว่า 60% ปรับตัวเข้าสู่เออีซีในปี 58 ไม่ทัน คาดเสียโอกาสการค้า การลงทุนเพียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอสเอ็มอีไทยกว่า 60% ปรับตัวเข้าสู่เออีซีไม่ทันปี 58 ทำให้เสียโอกาสในการทำการค้า การลงทุน แนะรัฐตั้งหน่วยงานที่ดูแลเฉพาะและมีกองทุนสนับสนุนด้านเงินทุน

นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจ “ผู้ประกอบการผลิตและส่งออกไทย ปรับตัวไปแค่ไหนภายใต้เออีซี” จากผู้ผลิตและส่งออกไทยที่เป็นเอสเอ็มอีจำนวน 1,000 ราย ครอบคลุม 19 รายการสินค้าว่า ผู้ผลิตและผู้ส่งออกเอสเอ็มอีมากกว่า 63.1% หรือประมาณ 3.21 แสนราย จากจำนวนเอสเอ็มอีในภาคผลิตทั้งหมด 5.12 แสนราย คิดว่าปรับตัวไม่ทันเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558

โดยเอสเอ็มอีที่ปรับตัวไม่ทัน พบว่าในกลุ่มสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ประมง ไก่ และยางพารา ส่วนกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมที่ปรับตัวไม่ทันส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่ใช้แรงงานเข้มข้น เช่น อุตสาหกรรมเซรามิก สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เคมีภัณฑ์ ยานยนต์และชิ้นส่วน อาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น

“จากผลสำรวจ การที่เอสเอ็มอีไม่พร้อมเข้าสู่เออีซีทำให้สูญเสียโอกาสในการแข่งขันกับประเทศในอาเซียน เพราะไม่รู้ว่าจะใช้ประโยชน์จากเออีซีอย่างไร และยังจะเสียโอกาสในการเข้าไปลงทุนตั้งบริษัทในประเทศเพื่อนบ้าน หากปล่อยไว้เอสเอ็มอีกลุ่มที่ปรับตัวไม่ทัน ก็จะต้องทยอยปิดกิจการไป แต่คงจะไม่เห็นผลทันทีในปี 2558” นายอัทธ์กล่าว

นายอัทธ์กล่าวว่า ศูนย์ฯ มีข้อเสนอให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดตั้งหน่วยงานที่มีลักษณะคล้ายกับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) และควรจะมีกองทุนสำหรับเอสเอ็มอีวงเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นทุนสนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพออกไปลงทุนในต่างประเทศ เช่น เสื้อผ้า อาหารทะเล รองเท้า และโรงสี เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ควรจะสนับสนุนให้มีการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าไทยในประเทศอาเซียน สร้างเครือข่ายระหว่างสมาคมผู้ผลิตในประเทศไทยกับประเทศอาเซียน และที่สำคัญจะต้องมีการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยออกไปลงทุนประเทศเพื่อนบ้านแบบรวมกลุ่มคลัสเตอร์ เพื่อไปตั้งฐานการผลิตหรือกระจายสินค้าในประเทศเพื่อนบ้าน


กำลังโหลดความคิดเห็น