ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.เชิญตัวแทนหอการค้าญี่ปุ่น หรือ เจซีซี และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร เข้าชี้แจงถึงความจำเป็นเข้าควบคุมบริหารอำนาจ รวมทั้งการขอให้นักลงทุนญี่ปุ่นนั้น เชื่อมั่นในความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นว่า ยังคงดำเนินการตามปกติ
ตัวแทนนักลงทุนญี่ปุ่นในไทยรายใหญ่คนหนึ่ง กล่าวว่า นักลงทุนญี่ปุ่นเข้าใจ และเคยชินกับปัญหาการเมืองไทย จึงไม่กังวลต่อการเข้าควบคุมอำนาจของ คสช.ว่า จะกระทบกับนโยบายเศรษฐกิจ แต่ว่าในทางกลับกันนักลงทุนญี่ปุ่นบางส่วนกลับสนับสนุน คสช. ปฏิรูปอุปสรรคการลงทุน โดยเฉพาะการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานแบบ รง.4 ซึ่งมักจะมีการเรียกรับสินบน พร้อมกันนี้ยังต้องการให้มีการทบทวนนโยบายส่งเสริมการลงทุนของคณะสำนักงานกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ซึ่งเตรียมยกเลิกสิทธิพิเศษสำหรับโรงงานที่ใช้แรงงานแบบเข้มข้น ซึ่งจะบังคับใช้ในเดือนธันวาคม ทำให้นักลงทุนญี่ปุ่นเร่งลงทุนก่อนบังคับใช้หลักเกณฑ์ใหม่ แต่ว่ามีบางส่วนย้ายฐานการผลิตไปยังอินโดนีเซีย
ข้อมูลจากบีโอไอ ระบุว่า การขอรับการส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ในเดือนมกราคม 2557 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ลดลงประมาณร้อยละ 48 และมูลค่าการลงทุนลดลงร้อยละ 75 ทั้งนี้นักลงทุนญี่ปุ่นยังมีปริมาณเม็ดเงินลงทุนที่ยื่นขอรับการส่งเสริมมากที่สุด รองลงมาคือ ฮ่องกง และสิงคโปร์
ตัวแทนนักลงทุนญี่ปุ่นในไทยรายใหญ่คนหนึ่ง กล่าวว่า นักลงทุนญี่ปุ่นเข้าใจ และเคยชินกับปัญหาการเมืองไทย จึงไม่กังวลต่อการเข้าควบคุมอำนาจของ คสช.ว่า จะกระทบกับนโยบายเศรษฐกิจ แต่ว่าในทางกลับกันนักลงทุนญี่ปุ่นบางส่วนกลับสนับสนุน คสช. ปฏิรูปอุปสรรคการลงทุน โดยเฉพาะการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานแบบ รง.4 ซึ่งมักจะมีการเรียกรับสินบน พร้อมกันนี้ยังต้องการให้มีการทบทวนนโยบายส่งเสริมการลงทุนของคณะสำนักงานกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ซึ่งเตรียมยกเลิกสิทธิพิเศษสำหรับโรงงานที่ใช้แรงงานแบบเข้มข้น ซึ่งจะบังคับใช้ในเดือนธันวาคม ทำให้นักลงทุนญี่ปุ่นเร่งลงทุนก่อนบังคับใช้หลักเกณฑ์ใหม่ แต่ว่ามีบางส่วนย้ายฐานการผลิตไปยังอินโดนีเซีย
ข้อมูลจากบีโอไอ ระบุว่า การขอรับการส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ในเดือนมกราคม 2557 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ลดลงประมาณร้อยละ 48 และมูลค่าการลงทุนลดลงร้อยละ 75 ทั้งนี้นักลงทุนญี่ปุ่นยังมีปริมาณเม็ดเงินลงทุนที่ยื่นขอรับการส่งเสริมมากที่สุด รองลงมาคือ ฮ่องกง และสิงคโปร์