กระทรวงอุตสาหกรรมลงพื้นที่สำรวจนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร มั่นใจภาพรวมนิคมฯ 6 แห่งที่เคยถูกน้ำท่วมปี 2554 จะไม่ซ้ำรอยแน่ แถมโวแม้ฝนเตรียมจ่อถล่มอีกก็ไม่หวั่น เหตุน้ำยังน้อยมากแถมมีคันกันถาวร เว้นสหรัตนนครแม้เขื่อนถาวรยังไม่คืบแต่เตรียมคันกันน้ำเคลื่อนที่เร็วสำรองจำนวนมากพร้อมเสริมคันดินเดิมได้ทันที
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการตรวจเยี่ยมนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 26 กันยายนว่า ขณะนี้แม้ว่ากรมอุตุนิยมวิทยาจะรายงานถึงปริมาณน้ำฝนที่จะมีเข้ามาอีกระลอกในช่วงปลายสัปดาห์นี้และต่อเนื่องถึง ต.ค. ก็ยังเชื่อมั่นว่าทุกนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมเดิม 6 แห่งจะสามารถรับมือกับระดับน้ำที่สูงกว่าครั้งน้ำท่วมปี 2554
ทั้งนี้ เนื่องจากนิคมฯ 5แห่ง ได้แก่ นิคมฯ โรจนะ นิคมฯ บางปะอิน นิคมฯ ไฮเทค (บ้านหว้า) นิคมฯ นวนคร และสวนอุตสาหกรรมบางกะดีได้มีการก่อสร้างคันกั้นน้ำถาวรซึ่งมีความสูงกว่าระดับน้ำที่เคยท่วมในปี 54 อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนิคมฯ สหรัตนนคร แม้ว่าการก่อสร้างคันกั้นน้ำถาวรจะคืบหน้าเพียง 30% แต่คันดินกั้นน้ำเดิมที่สูง 6.5 เมตรยาว 6 กิโลเมตรยังแข็งแรง และเพื่อไม่ประมาท การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้จัดซื้อคันกั้นน้ำเคลื่อนที่เร็วไว้เสริมอีกชั้นจึงมั่นใจว่าจะรับมือได้
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าฯ กนอ. กล่าวว่า กนอ.ได้จัดซื้อคันกั้นน้ำเคลื่อนที่เร็วมูลค่า 140 ล้านบาทไว้เสริมความมั่นคงในนิคมฯ สหรัตนนคร โดยมีความสูงคันกั้นน้ำ 1.20 เมตร ความยาว 20 กิโลเมตรที่จะสามารถไว้เสริมกับคันดินและถนนในจุดเสี่ยงได้อย่างดี โดยนักลงทุนในนิคมฯ มีความเชื่อมั่นว่าปีนี้จะไม่มีน้ำท่วมซ้ำรอยปี 54 อย่างไรก็ตาม ทางประธานองค์การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของญี่ปุ่นหรือเจโทรได้ฝากให้กระทรวงอุตสาหกรรมช่วยดูแลปัญหาน้ำท่วมให้นักลงทุนญี่ปุ่นด้วย
นายทวี นริสศิริกุล รองผู้ว่าฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ปริมาณน้ำภาพรวมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาขณะนี้คิดเป็นเพียง 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมหนัก โดยขณะนี้น้ำที่ท่วมเป็นน้ำทุ่งที่เป็นภาวะปกติ ซึ่งขณะนี้ได้มีการประสานทุกฝ่ายในการเร่งระบายออกสู่เจ้าพระยา รวมถึงการลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักลง ดังนั้น แม้ว่าฝนจะมาเพิ่มอีกเชื่อว่าจะสามารถระบายออกไปได้และปริมาณน้ำจะไม่มากเช่นปี 2554