xs
xsm
sm
md
lg

“ประจิน” เขย่างบปี 58 คมนาคมขอเพิ่มเป็น 1.54 แสนล้าน ยัน คตร.แค่ตรวจแผนสุวรรณภูมิเฟส 2-ซื้อ NGV ยังไม่ระงับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประจิน” ถกงบคมนาคมปี 58 รับทราบเพิ่มกรอบคำขอเป็น 1.54 แสนล้านบาท จากเดิม 1.4 แสนล้านบาท คาดปลาย ก.ค.สรุปงบรวมรายกระทรวงได้ใช้ทันต้น ก.ย.แน่ ยืนยัน คตร.ยังไม่ระงับโครงการลงทุนทั้งสุวรรณภูมิเฟส 2 และซื้อรถเมล์ NGV โดยต้องการตรวจสอบรายละเอียด หากชี้แจงได้ชัดเจน มีความโปร่งใสได้ทำต่อตามแผน



พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาคำของบประมาณประจำปี 2558 วันนี้ (23 มิ.ย.) ว่า กระทรวงคมนาคมได้เสนอของบประมาณปี 2558 ประมาณ 1.4-1.5 แสนล้านบาท ซึ่งเพิ่มจากงบประมาณปี 2557 ที่ได้ประมาณ 1.3 แสนล้านบาท โดยกระทรวงคมนาคมต้องนำเสนอสำนักงบประมาณเพื่อจัดสรรกรอบที่เหมาะสมร่วมกับกระทรวงอื่นๆ คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จากนั้นในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนสิงหาคมจะเข้ากระบวนการชี้แจงงบประมาณเป็นรายกระทรวง และจะสรุปได้ในสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน

ทั้งนี้ โครงการเร่งด่วนที่จัดสรรไว้ในงบประมาณปี 2558 จะกระจายครอบคลุมทุกด้าน ลำดับแรกเป็นเรื่องการบูรณะซ่อมแซมถนน การปรับปรุงทางรถไฟ ถนน และสะพานเพื่อให้เกิดความปลอดภัย และการขยายถนนเป็น 4 ช่องจราจรก่อน จากนั้นจะเร่งพิจารณาโครงการรถไฟทางคู่ ซึ่งขณะนี้ได้ศึกษาความเป็นไปได้และจัดแบ่งเฟสก่อสร้างในแต่ละเส้นทาง โดยงบประมาณปี 2558 ประมาณ 75% หรือ 1.1 แสนล้านบาทจะเป็นการลงทุนในโครงการที่อยู่ในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง กระจายอยู่ใน 7 หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ 5 แห่งของกระทรวงคมนาคม ซึ่งในส่วนนี้จะต้องนำเสนอ คสช. คาดว่าจะมีความชัดเจนในเดือนกรกฎาคม จากนั้นจะมีการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเพื่อพิจารณาในภาพรวมต่อไป

“ได้มีการทำความเข้าใจร่วมกันในการจัดตั้งงบประมาณปี 2558 ของกระทรวงคมนาคมให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์กระทรวงการคลัง และ คสช.ได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเป็นแผน 8 ปี (58-65) แบ่งเป็น 3 เฟส เฟสละ 2-3 ปี ว่าจะต้องมีความต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งการขนส่งผู้โดยสาร สินค้าทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ ทางอากาศ ให้เกิดความสะดวกและปลอดภัย เชื่อมโยงการเดินทางจากชนบทเข้าเมืองได้อย่างสมบูรณ์และเกิดประสิทธิภาพ โดยล่าสุดได้มีการเสนอโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบาราเข้ามาด้วย ส่วนท่าเรือในแม่น้ำป่าสักและท่าเรือจังหวัดชุมพรนั้นมีอยู่ในแผนรอการจัดสรรงบประมาณอยู่แล้ว” พล.อ.อ.ประจินกล่าว

สำหรับโครงการที่ถูกตรวจสอบโดยคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) นั้นยังไม่ได้ระงับโครงการแต่อย่างใด โดย คตร.ต้องการเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดก่อน โดยกรณีงบประมาณเกิน 1,000 ล้านบาท หากชี้แจงแล้วมีความชัดเจน โครงการมีความโปร่งใส มีเหตุผลจำเป็นเร่งด่วน มีความพร้อมของงบประมาณสามารถเดินหน้าได้ แต่หากชี้แจงแล้วยังไม่ชัดเจนต้องทบทวนและชะลอไว้ก่อน เช่น โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 วงเงิน 6.2 หมื่นล้านบาท ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เป็นการตรวจสอบแผนงาน ซึ่งเป็นโครงการในแผนยุทธศาสตร์ถือว่าเร่งด่วนแต่ต้องตรวจสอบกรอบงบประมาณหรือวงเงินกู้ที่เป็นหนี้สาธารณะและกรณีที่มีผลกระทบสิ่งแวดล้อม หากผลตรวจสอบสรุปว่าโครงการมีความชัดเจนโปร่งใสก็สามารถทำได้ทันที ขณะเดียวกันให้ ทอท.ทำแผนนำเสนอเพื่อเตรียมการประกวดราคาควบคู่กันไป

นอกจากนี้ คตร.ยังตรวจสอบร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) โครงการจัดซื้อรถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (NGV) จํานวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาทขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ด้วย ซึ่งหากโครงการโปร่งใสก็จะดำเนินการเรื่องเงินกู้ต่อไป เพราะถือว่าเป็นโครงการที่มีความจำเป็นเพื่อให้มีรถเมล์ที่ใหม่และมีระบบที่ทันสมัยเพื่อบริการที่ดีและมีความปลอดภัยมากขึ้น ส่วนโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) นั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาความพร้อมของแต่ละสายทาง ซึ่งเบื้องต้นเห็นว่าสายทางแรกที่สามารถดำเนินการได้ คือ ชลบุรี-พัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 89 กิโลเมตร วงเงิน 22,850 ล้านบาท ไม่มีปัญหาเรื่องแหล่งเงินลงทุน เนื่องจากกรมทางหลวงจะใช้เงินงบประมาณมาดำเนินการเรื่องจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 18,000 ล้านบาท โดยปี 2558 จะดำเนินการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินก่อน 900 ล้านบาท ส่วนค่าก่อสร้างจะใช้เงินค่าก่อสร้างจากกองทุนมอเตอร์เวย์ที่ปัจจุบันมีเงินเหลือกว่า 10,000 ล้านบาท

ด้านนายสมชัย ศิริวัฒนโชค ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สำนักงบประมาณได้ให้กรอบงบประมาณปี 2558 ของกระทรวงคมนาคมไว้ที่ 141,422 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น งบประมาณสำหรับหน่วยงานราชการวงเงิน 107,181 ล้านบาท และกรอบวงเงินในส่วนรัฐวิสาหกิจ 34,241 ล้านบาท โดยล่าสุดหน่วยงานได้จัดทำแผนอีกครั้งทำให้วงเงินคำขอปรับเพิ่มเป็น 1.54 แสนล้านบาท จึงได้หารือกับ พล.อ.อ.ประจินก่อน จากนั้นจะนำกรอบใหม่ไปหารือกับสำนักงบประมาณว่าจะสามารถปรับกรอบเพิ่มขึ้นได้หรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น