ข่าวร้ายรับวันแรงงาน ภาคอุตสาหกรรมส่งสัญญาณไม่รับแรงงานเพิ่มหลังการเมืองฉุดการบริโภคชะลอตัว หลายโรงงานไม่สามารถเดินเครื่องกำลังผลิตเต็มที่ เอสเอ็มอีเริ่มเห็นปลดคนแล้ว คาดปีนี้แนวโน้มตกงานแตะระดับ 5 แสนคนหลังนักศึกษาจบใหม่เพิ่มเข้ามาอีก
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า คาดว่าปี 2557 อัตราการว่างงานของไทยจะสูงไม่น้อยกว่า 1.1% ของกำลังแรงงานทั้งหมด หรือคิดเป็นจำนวนแรงงานประมาณ 4.9-5 แสนคน เนื่องจากเดือน พ.ค.นี้จะมีแรงงานที่จบใหม่เข้ามาเพิ่มในระบบอีกราว 4 แสนคน และในจำนวนดังกล่าวคาดว่าจะมีแรงงานที่จะตกงานเพิ่มอีกประมาณ 1.5 แสนคน เนื่องจากปัญหาการเมืองทำให้การค้าและการลงทุนต้องชะลอตัวตามทำให้ภาคการผลิตไม่มีนโยบายรับแรงงานเพิ่มในปัจจุบัน
“เด็กจบใหม่จะมีประมาณ 4 แสนคน แต่ราว 3 แสนคนจะเป็นเด็กที่จบอุดมศึกษา และในจำนวนนี้อาจจะมีสายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพบ้าง ให้อย่างมากสุดจำนวน 50% นี้หรือประมาณ 1.5 แสนคนจะต้องตกงานค่อนข้างชัดเจน ดังนั้นปัจจุบันแรงงานที่ว่างงานอยู่แล้ว 3.4 แสนคนก็จะเพิ่มเป็น 4.9 แสนคนเป็นอย่างต่ำหรือคิดเป็นอัตราว่างงานเพิ่มจากเดิมที่ 0.9% ของกำลังแรงงานเป็น 1.1% ของกำลังแรงงาน ซึ่งหากการเมืองยังยืดเยื้อก็เชื่อว่าจะมากกว่านี้แน่แต่ยังหวังว่าการเมืองจะจบได้เร็วๆ นี้” นายวัลลภกล่าว
ทั้งนี้ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลกระทบต่อยอดใช้จ่ายในประเทศลดลงเพราะปัญหาการเมือง และการส่งออกเดือนล่าสุดยังติดลบ ทำให้ภาคการผลิตโดยเฉพาะโรงงานต่างๆ ไม่สามารถเดินเครื่องผลิตเต็มที่ ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หยุดการขยายงาน ไม่มีการรับพนักงานเพิ่ม และปรับลดกำลังผลิต ลดค่าล่วงเวลา ส่วนผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) มีการลดเงินเดือน และเริ่มมีการเลิกจ้างในบางส่วน ซึ่งหากภาคการเมืองยังมีปัญหาต่อเนื่อง ไม่มีการเลือกตั้ง ไม่มีรัฐบาลใหม่ภายใน 6 เดือนการว่างงานก็จะน่าเป็นห่วงมากขึ้น
