“เรกูเลเตอร์”เตรียมถกเคาะขยับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือ Ft งวดพ.ค.-ส.ค.วันที่ 30 เม.ย.นี้ยอมรับว่าไม่สามารถจะตรึงราคาได้ตามข้อเสนอเอกชนแต่จะลดผลกระทบต่อประชาชนด้วยการขยับไม่เต็มเพดาน ดึง”กฟผ.”อุ้มต่อคาดขยับเพียง 5-7 สต./หน่วยจากที่ต้องขึ้น 13 สต./หน่วย
นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรกูเลเตอร์) เปิดเผยว่า วันที่ 30 เมษายน เรกูเลเตอร์จะประชุมเพื่อพิจารณาเห็นชอบค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือ Ft ที่จะเรียกเก็บในบิลค่าไฟประชาชนรอบใหม่เดือนพ.ค.-ส.ค. 57 โดยจากการพิจารณาต้นทุนเบื้องต้นพบว่าแนวโน้มจะมีการปรับขึ้นจากหลายปัจจัยเช่น อัตราแลกเปลี่ยนอ่อนค่าลง ปริมาณการใช้ไฟฟ้าต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ เป็นต้น อย่างไรก็ตามกรณีที่ภาคเอกชนได้เสนอแนะให้ตรึงค่าไฟฟ้านั้นคงเป็นไปได้ยากเพราะที่สุดแล้วก็จะต้องมีผู้รับภาระ
“ เรกูเลเตอร์จะพิจารณาลดผลกระทบต่อประชาชนโดยอาจใช้แนวทางการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าแบบขั้นบันได ซึ่งงวดนี้อาจจะปรับขึ้นเล็กน้อยเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนที่ปัจจุบันได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและค่าครองชีพที่สูง หลังจากนั้นก็จะทยอยปรับขึ้นซึ่งจะใช้แนวทางใดคงอยู่ที่ประชุม ซึ่งหากใช้วิธีทยอยขึ้นก็คงต้องให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)มาแบกรับภาระส่วนหนึ่ง”นายดิเรกกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า เบื้องต้นแนวโน้มค่า Ft ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเสนอมาจะต้องปรับขึ้น 13 สตางค์ต่อหน่วยโดยเรกูเลเตอร์ยังต้องมาพิจารณาถึงต้นทุนต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะปรับขึ้นอย่างไรให้เหมาะสม รวมถึงความสามารถในการแบกรับค่าไฟของกฟผ.ได้มากน้อยเพียงใดเนื่องจากการปรับขึ้นค่าไฟงวดแรก(ม.ค.-เม.ย.57) ที่ปรับขึ้น 5 สตางค์ต่อหน่วยมาอยู่ที่ 59 สตางค์ต่อหน่วยนั้นได้ให้กฟผ.แบกรับภาระไว้ทั้งสิ้น 939 ล้านบาท โดยมีแนวโน้มว่าหากจะปรับแบบขั้นบันไดจะขึ้นประมาณ 5-7 สตางค์ต่อหน่วย
“ผลกระทบค่า Ft งวดนี้ส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่อ่อนค่าจากงวดที่ผ่านมา โดยทุก 1 บาทต่อเหรียญสหรัฐที่อ่อนค่าลงจะส่งผลต่อค่าไฟที่ปรับขึ้น 5.6 สตางค์ต่อหน่วย”แหล่งข่าวกล่าว
