เรกูเลเตอร์เคาะขึ้นค่าไฟที่เรียกเก็บงวดใหม่ (ม.ค.-เม.ย. 57) แค่ 5 สตางค์ต่อหน่วยแม้ต้นทุนจริงจะขยับ 6.99 สตางค์ต่อหน่วย หวั่นประชาชนรับภาระมากไป โดยดึงเงินค่าปรับจากการขาดส่งก๊าซฯ เยตากุนมาโปะ และอีกส่วนให้ กฟผ.แบกรับภาระไปก่อน
นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) เปิดเผยภายหลังการประชุมพิจารณาการประมาณการค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ หรือ Ft สำหรับเรียกเก็บในเดือนมกราคม-เมษายน 2557 ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบปรับขึ้นค่า Ft 5 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่า Ft ที่เรียกเก็บงวดนี้อยู่ที่ 59 สตางค์ต่อหน่วยจากเดิมอยู่ที่ 54 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งหากคิดตามการคำนวณต้นทุนที่แท้จริงแล้วจะต้องปรับขึ้นรวมในอัตราที่ 60.99 สตางค์ต่อหน่วย หรือปรับขึ้น 6.99 สตางค์ต่อหน่วย แต่เนื่องจากเห็นว่าอัตราดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อประชาชนมากเกินไป
อย่างไรก็ตาม อัตราที่ปรับขึ้นดังกล่าวเรกูเลเตอร์ได้นำเงินค่าปรับที่ได้จากการขาดส่งก๊าซฯ แหล่งเยตากุนจำนวน 130.39 ล้านบาทมาช่วยชดเชยภาระค่า Ft ได้ส่วนหนึ่ง และให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แบกรับภาระจากงวดที่ผ่านมา 939.48 ล้านบาทไปก่อนอีกงวดหนึ่งเพื่อไม่ให้เป็นภาระประชาชนมากเกินไป
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ค่าไฟงวดนี้สูงขึ้นมาจากความต้องการพลังงานไฟฟ้าเท่ากับ 5.8 หมื่นล้านหน่วย เพิ่มสูงขึ้น 2.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมทั้งการเตรียมการรองรับก๊าซพม่า และอ่าวไทยหยุดจ่ายจึงมีความจำเป็นต้องพึ่งการผลิตไฟฟ้าจากน้ำมันเตา ถ่านหิน ดีเซล นอกจากนี้ยังมีผลจากปัจจัยค่าเงินบาทอ่อนค่าลง 0.97 บาทต่อเหรียญสหรัฐโดยอ่อนค่าจาก 31.24 บาทต่อเหรียญมาเป็น 32.21 บาทต่อเหรียญ เป็นต้น
“รายละเอียดทั้งหมดเรกูเลเตอร์จะเผยแพร่ผ่าน www.erc.or.th เพื่อรับฟังความเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตั้งแต่ 27 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป เพื่อนำมาประกอบความเห็นประกาศเรียกเก็บค่าไฟอย่างเป็นทางการอีกครั้ง” นายดิเรกกล่าว