xs
xsm
sm
md
lg

ทอท.งัดมาตรการลดค่าธรรมเนียมจูงใจสายการบิน บูมสนามบินภูมิภาคช่วยเพิ่มรายได้ครึ่งปีหลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.
ทอท.เตรียมออกแคมเปญลดค่าธรรมเนียมขึ้นลงอากาศยาน 3 สนามบินภูมิภาค หาดใหญ่ เชียงราย เชียงใหม่จุใจ 30-50% หวังจูงใจสายการบินให้เพิ่มเที่ยวบินและเปิดเส้นทางบินใหม่ เพิ่มรายได้ชดเชยที่สุวรรณภูมิและดอนเมืองหลังเจอวิกฤตการเมือง 6 เดือนผู้โดยสารเติบโตต่ำกว่าเป้า

นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. ที่มี น.ต.ศิธา ทิวารี เป็นประธานวันนี้ (24 เม.ย.) จะเสนอขออนุมัติในหลักการโครงการส่งเสริมการตลาดด้านการบิน ณ ท่าอากาศยานภูมิภาคของ ทอท. 3 แห่ง คือ เชียงใหม่, หาดใหญ่, เชียงราย โดยการลดค่าธรรมเนียมในการขึ้นลงของอากาศยาน (Landing Fee)
สำหรับสายการบินเดิมที่มีการเพิ่มเที่ยวบินจะได้ส่วนลดอัตราประมาณ 50% ส่วนสายการบินที่มีการเปิดเส้นทางการบินใหม่ (New Route) จะได้ส่วนลดอัตราประมาณ 30% เพื่อกระตุ้นให้สายการบินเพิ่มจำนวนเที่ยวบินซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารของท่าอากาศยานภูมิภาค ชดเชยจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมืองที่เติบโตต่ำกว่าเป้าหมายในช่วง 2 ไตรมาสของปี 2557 เนื่องจากเหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่กรุงเทพฯ

โดยจะเสนอบอร์ดขออนุมัติแคมเปญส่งเสริมการตลาดของท่าอากาศยานหาดใหญ่และเชียงรายในกรอบเวลา 3 ปี ส่วนเชียงใหม่กรอบเวลา 1 ปี โดยจะดำเนินการเป็นช่วงๆ ช่วงละ 6 เดือน เพื่อประเมินผลและสามารถปรับรายละเอียดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ โดยจะร่วมมือกับการท่องเที่ยวฯ และท้องถิ่นในการจัดกิจกรรมส่งเสริมเรื่องแหล่งท่องเที่ยวของแต่ละพื้นที่ เพื่อดึงดูดให้สายการบินทำการบินตรงจากต่างประเทศเข้ามา

“สาเหตุที่ขอกรอบเวลาที่หาดใหญ่และเชียงราย 3 ปีเพราะทั้ง 2 แห่งยังมีขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มได้ และหากแคมเปญได้ผลจะเป็นการปรับฐานจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารให้เพิ่มขึ้นในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวในขณะนี้ได้
ส่วนเชียงใหม่ค่อนข้างเต็มแล้วแต่จำเป๊นต้องทำด้วยเพื่อนำรายได้ที่เพิ่มมาช่วยชดเชยดอนเมืองและสุวรรณภูมิที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ถือว่าเป็นมิติในการบริหารและคุ้มค่า เพราะให้ส่วนลดกับเที่ยวบินที่เพิ่มและเส้นทางบินใหม่ที่จะเพิ่มขึ้น” นายเมฆินทร์กล่าว

นายเมฆินทร์กล่าวว่า ปีนี้ ทอท.ตั้งเป้าอัตราผู้โดยสารจะเติบโตที่ 10% แต่ช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมาสุวรรณภูมิเติบโตติดลบ 4.1% จากเป้าโต 3.5% ส่วนดอนเมืองเติบโตเพียง 17% จากเป้าโต 27% ซึ่งจากการประเมิน หากสถานการณ์ยืดเยื้อและส่งผลกระทบเป็นเวลา 3 เดือนการเติบโตในภาพรวมของปีนี้จะเหลือ 7.35% แต่หากกระทบถึง 6 เดือนจะเติบโตเพียง 6.9% ดังนั้น ทอท.จะต้องพยายามบริหารเพื่อให้มีกำไรสุทธิของปีนี้มากกว่าปีที่ผ่านมา โดยมี 3 มิติหลัก คือ 1. สร้างรายได้จากท่าอากาศยานภูมิภาคเพื่อชดเชยรายได้ของท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิ 2. นำทรัพย์สินที่ดินว่างเปล่าทั้งหมดรวม 3,192 ไร่ มาบริหารเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม 3. บริหารในเรื่องค่าใช้จ่าย

ซึ่งในการสร้างมูลค่าจากทรัพย์สินนั้นมีการนำเสนอแผนแม่บทในหลายรูปแบบ โดยภายในปีนี้จะเริ่มพัฒนาที่ดอนเมืองพื้นที่ประมาณ 3 แสนตารางเมตร ภูเก็ตประมาณ 1.2 แสนตารางเมตรได้ โดย ทอท.จะดำเนินการเอง รูปแบบ Airport City ส่วนใหญ่เป็น Non Aero การต่อเชื่อมกับระบบรถไฟสีแดง และการท่องเที่ยว มีผลตอบแทนทางการลงทุน(IRR) ประมาณ 24% ส่วนที่สุวรรณภูมิจะเป็นธุรกิจแบบใหม่ไม่เชื่อมกับพื้นที่บริการผู้โดยสาร มีหลากหลายรูปแบบ ทั้ง CSR ส่งเสริมสวัสดิการชุมชน เช่น ทำเป็น Sport Music Activity หรือตลาดน้ำในบางช่วงเวลา เป็นต้น หลักการคือต้องบริหารทรัพย์สินที่มีให้เกิดการเคลื่อนไหวและสร้างมูลค่าผ่านกิจกรรมต่างๆ ซึ่งจะมีทั้งที่ทำเอง และร่วมทุนตาม พ.ร.บ.ร่วมการงานฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น