“พาณิชย์” เผยธุรกิจตั้งใหม่เดือน มี.ค.ลดลง 9% และเจ๊งเพียง 0.1% ส่วนยอดรวมไตรมาสแรกตกวูบถึง 22% เหตุได้รับผลกระทบจากการคุมเข้มจดทะเบียนค้าสลาก ปัญหาการเมืองป่วน เศรษฐกิจชะลอตัว
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจเดือน มี.ค. 2557 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศจำนวน 5,248 ราย ลดลง 9% เมื่อเทียบกับเดือน มี.ค. 2556 ซึ่งมีจำนวน 5,753 ราย ลดลง 505 ราย แต่เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวน 4,854 ราย หรือเพิ่มขึ้น 394 ราย ส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศมีจำนวน 830 ราย ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับ มี.ค. 2556 ซึ่งมีจำนวน 831 ราย หรือลดลง 1 ราย แต่เพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวน 1,016 ราย หรือเพิ่มขึ้น 186 ราย
สำหรับการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทในไตรมาสแรกของปี 2557 (ม.ค.-มี.ค.) มีจำนวน 15,419 ราย ลดลง 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สาเหตุที่ทำให้การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ลดลง เนื่องจากการจดทะเบียนธุรกิจค้าสลากลดลง ปัญหาจากความไม่สงบทางการเมืองที่มีตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. 2556 จนถึงปัจจุบัน และการประเมินอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยปี 2557 ว่าจะอยู่ที่ 2.7% ลดลงจากปี 2556 ที่เติบโต 2.9% ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ โดยคาดว่าทั้งปี 2557 อาจจะมีจำนวนการจดทะเบียนใกล้เคียงหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2556
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ การส่งออกที่คาดว่าจะดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐในส่วนที่ได้มีการผูกพันไว้แล้ว การมีรัฐบาลชุดใหม่ที่จะขับเคลื่อนนโยบายและโครงการต่างๆ การลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มขยายตัว และสถานการณ์ทางการเมืองที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ และการจดทะเบียนธุรกิจโดยรวม
ปัจจุบัน ณ วันที่ 31 มี.ค. 2557 มีห้างหุ้นส่วนบริษัทจำกัดดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 561,245 ราย มีทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 10.77 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น บริษัทจำกัด 389,342 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,046 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 170,857 ราย