นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในเดือนเมษายน 2557 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 4,265 ราย ลดลง 983 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2557 ซึ่งมีจำนวน 5,248 ราย
สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศในเดือนเมษายน 2557 มีจำนวน 837 ราย ด้านมูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในเดือนเมษายน 2557 มีจำนวนทั้งสิ้น 17,289 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1,873 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 447 ราย อสังหาริมทรัพย์ จำนวน 272 ราย ขายส่งเครื่องจักร จำนวน 99 ราย ภัตตาคารร้านอาหาร จำนวน 88 ราย และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ จำนวน 77 ราย ส่งผลให้ปัจจุบัน มีห้างหุ้นส่วนบริษัทจำกัดดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 563,241 ราย มีทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 10.78 ล้านล้านบาท
สำหรับการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทในเดือนเมษายนที่ผ่านมาลดลง เนื่องจากการจดทะเบียนธุรกิจค้าสลากลดลง เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา และการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ปี 2557 ลดลงเหลือร้อยละ 2.7 โดยมีสาเหตุจากความไม่สงบทางการเมือง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับภาครัฐในการจัดทำงบประมาณประจำปี 2558 ที่ล่าช้า และผลกระทบต่อความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและเอกชน
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ ความชัดเจนทางการเมือง การกำหนดอัตราจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะหมดอายุลงภายในเดือนกันยายนนี้ การเพิ่มกิจกรรมเพื่อผลักดันการส่งออกให้ขยายตัวตามเป้าหมาย ซึ่งคาดว่าจะดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศในเดือนเมษายน 2557 มีจำนวน 837 ราย ด้านมูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในเดือนเมษายน 2557 มีจำนวนทั้งสิ้น 17,289 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1,873 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 447 ราย อสังหาริมทรัพย์ จำนวน 272 ราย ขายส่งเครื่องจักร จำนวน 99 ราย ภัตตาคารร้านอาหาร จำนวน 88 ราย และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ จำนวน 77 ราย ส่งผลให้ปัจจุบัน มีห้างหุ้นส่วนบริษัทจำกัดดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 563,241 ราย มีทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 10.78 ล้านล้านบาท
สำหรับการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทในเดือนเมษายนที่ผ่านมาลดลง เนื่องจากการจดทะเบียนธุรกิจค้าสลากลดลง เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา และการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ปี 2557 ลดลงเหลือร้อยละ 2.7 โดยมีสาเหตุจากความไม่สงบทางการเมือง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับภาครัฐในการจัดทำงบประมาณประจำปี 2558 ที่ล่าช้า และผลกระทบต่อความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและเอกชน
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ ความชัดเจนทางการเมือง การกำหนดอัตราจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะหมดอายุลงภายในเดือนกันยายนนี้ การเพิ่มกิจกรรมเพื่อผลักดันการส่งออกให้ขยายตัวตามเป้าหมาย ซึ่งคาดว่าจะดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
