xs
xsm
sm
md
lg

คนกังวลการเมืองวุ่นวาย ไม่กล้าลงทุนทำธุรกิจ ฉุดยอดบริษัทตั้งใหม่เดือน พ.ย.ลดลง 32%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” เผยยอดจดทะเบียนตั้งบริษัทเดือน พ.ย.วูบ 32% เหตุคนกังวลปัญหาการเมืองเลยไม่มีความมั่นใจทำธุรกิจ ส่วนเป้าทั้งปียังจะทำสถิติสูงสุด 6.5 หมื่นราย โต 11% ด้านบริษัทเจ๊งเพิ่มขึ้น 13% ไม่พบปัญหาการเมืองมีเอี่ยว คาดปี 57 แนวโน้มยังดี หากการเมืองเดินตามระบบ โครงการลงทุนขนาดใหญ่ได้ไปต่อ

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์รักษาการ เปิดเผยว่า การจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัททั่วประเทศ เดือน พ.ย. 2556 มีจำนวน 4,397 ราย ลดลง 865 ราย หรือลดลง 16% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวน 5,262 ราย และลดลง 2,061 ราย หรือลดลง 32% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย. 2555 ซึ่งมีจำนวน 6,458 ราย ทำให้ช่วง 11 เดือนของปี 2556 (ม.ค.-พ.ย.) มียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 64,396 ราย เพิ่มขึ้น 5,091 ราย หรือเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สาเหตุที่ทำให้การจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลในเดือน พ.ย. 2556 ลดลง ส่วนใหญ่มาจากปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองที่ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจของผู้ประกอบการ เหมือนกับปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ ทำให้การจดทะเบียนในเดือน พ.ย.ปีนั้นก็ลดลง และยังมีสาเหตุมีจากการเข้มงวดการจดทะเบียนธุรกิจค้าสลาก ทำให้ยอดตั้งบริษัทใหม่ลดลงด้วย

ทั้งนี้ ยังคาดว่ายอดจดทะเบียนทั้งปี 2556 จะทำได้ 65,000 ราย เพิ่มขึ้น 11% จากเดิมที่ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะทำได้ 70,000 ราย แต่ก็ยังเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 111 ปี อยู่ดี

สำหรับการจดทะเบียนเลิกนิติบุคคลในเดือน พ.ย. 2556 มีจำนวน 1,783 ราย เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 202 ราย หรือเพิ่มขึ้น 13% และเมื่อเทียบกับเดือน พ.ย. 2555 เพิ่มขึ้น 23 ราย หรือเพิ่มขึ้น 1% ซึ่งสาเหตุที่จดทะเบียนเลิกส่วนใหญ่มาจากการไม่ประกอบกิจการ 37% ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจค้าสลาก ผลตอบแทนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย 28% ขาดทุน 23% และปัญหาอื่นๆ เช่น หุ้นส่วนขัดแย้ง หุ้นส่วนมีปัญหาสุขภาพอีก 12% แต่ยังไม่พบว่าปัญหาการเมืองเป็นเหตุผลให้มีการจดทะเบียนเลิกธุรกิจ

ส่วนแนวโน้มการจดทะเบียนธุรกิจในปี 2557 หากการเมืองเดินตามระบบได้ มีการปฏิบัติตามกติกา และโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทมีความชัดเจนก็จะทำให้ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นและมีการจดทะเบียนเพิ่มขึ้น อีกทั้งในปี 2557 เป็นปีสุดท้ายที่จะเริ่มเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ก็ยิ่งเป็นปัจจัยบวกทำให้ภาคธุรกิจมีการขยายธุรกิจรองรับมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น