ธุรกิจตั้งใหม่เดือน ต.ค. 5,262 ราย ลดลง 14% เหตุเป็นวัฏจักรการทำธุรกิจที่ช่วงไตรมาสสุดท้ายจะจดทำธุรกิจน้อยกว่าปกติ และยังเป็นผลมาจากการคุมเข้มจดทำธุรกิจค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล และน้ำท่วม แต่เชื่อทั้งปียอดจดจัดตั้งทุบสถิติรอบ 111 ปี ห่วงชุมนุมทำบรรยากาศลงทุนต่างประเทศกร่อย
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลทั่วประเทศเดือน ต.ค. 2556 มีจำนวน 5,262 ราย ลดลง 14% เมื่อเทียบกับ ต.ค. 2555 และลดลง 6% เมื่อเทียบกับ ก.ย. 2556 โดยมีทุนจดทะเบียนจัดตั้งมูลค่า 1.90 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้การจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ช่วง 10 เดือน ปี 2556 (ม.ค.-ต.ค.) มีจำนวน 5.99 หมื่นราย เพิ่มขึ้น 14% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สาเหตุที่ทำให้การจดทะเบียนจัดตั้งในเดือน ต.ค.ลดลง เนื่องจากเป็นแนวโน้มปกติที่การจดทะเบียนในไตรมาสสุดท้ายจะชะลอตัวลง เพราะธุรกิจส่วนใหญ่จะไปเริ่มตั้งใหม่ในช่วงต้นปี และจากการตรวจสอบย้อนหลังไป 5 ปีก็พบว่าการจดทะเบียนก็เป็นไปในลักษณะนี้ทุกปี
นอกจากนี้ยังพบว่ายอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจค้าสลากได้ลดลงอย่างมาก หลังจากที่กำหนดให้ผู้จดตั้งใหม่จะต้องเพิ่มเอกสารที่ตั้งของธุรกิจ บัตรประชาชนตัวจริงของผู้จดทะเบียน และสมุดบัญชีเงินฝากที่มีตัวเลขของทุนจดทะเบียน โดยมียอดจดเพียง 15 ราย ลดลง 98% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. 2555 ที่มียอดจด 960 ราย และผลจากน้ำท่วมใน 42 จังหวัด ได้ทำให้การจดทะเบียนตั้งใหม่ลดลงด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายอดการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในเดือน ต.ค.จะลดลง แต่ภาพรวมการจดทะเบียนจัดตั้งทั้งปี 2556 คาดว่าจะสามารถทำลายสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ในรอบ 111 ปี หรือมียอดการจดทะเบียนจัดตั้งทั้งปีถึง 7 หมื่นราย ซึ่งเป็นผลจากนโยบายรัฐบาลที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจเอสเอ็มอี โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาท จะทำให้มีธุรกิจเกิดใหม่เพิ่มขึ้น
สำหรับยอดการจดทะเบียนเลิกนิติบุคคลทั่วประเทศเดือน ต.ค. 2556 มีจำนวน 1,581 ราย ลดลง 3% เทียบกับ ต.ค. 2555 แต่เพิ่มขึ้น 9% เทียบกับ ก.ย. 2556 มีทุนจดทะเบียนเลิก ต.ค. 2556 มูลค่า 5,040 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดการจดทะเบียนเลิกช่วง 10 เดือน 2556 (ม.ค.-ต.ค.) มีจำนวน 1.10 หมื่นราย ลดลง 2% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า สถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณที่จะส่งผลกระทบต่อการจดทะเบียนธุรกิจ ซึ่งภาคธุรกิจยังดำเนินกิจการต่อไปได้ แต่มีความเป็นห่วงความเชื่อมั่นในการลงทุนของธุรกิจต่างชาติมากกว่า จึงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันคำนึงและรักษาบรรยากาศในการลงทุน เพราะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวม ซึ่งเงื่อนไขเรื่องการคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม รัฐบาลได้ถอนเรื่อง 6 ฉบับออกหมดแล้ว และอีกฉบับที่ผ่านวาระ 3 กำลังเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาที่จะยุติกฎหมายฉบับนี้ การชุมนุมก็น่าจะยุติลงได้
“หากการชุมนุมยังคงยืดเยื้อ เชื่อว่าเป็นการสร้างเงื่อนไขเพิ่มเติมขึ้นมาให้เป็นวาระทางการเมืองที่ประชาชนควรพิจารณา ซึ่งรัฐบาลจะทำความเข้าใจกับประชาชนและใช้วิธีเจรจาในการสร้างความเข้าใจกับทุกฝ่าย” นายณัฐวุฒิกล่าว
ปัจจุบันมีห้างหุ้นส่วนบริษัทจำกัดดำเนินกิจการทั่วประเทศจำนวน 5.60 แสนราย มีทุนจดทะเบียน 10.73 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 3.81 แสนราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,035 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 1.78 แสนราย
