xs
xsm
sm
md
lg

“บี.กริม” ลั่นปีนี้โตตามเป้า 20% การเมืองไม่กระทบ-รุกไฟฟ้า ตปท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“บี.กริม” ยันได้รับผลกระทบน้อยจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวและการเมืองวุ่นวาย คงเป้ายอดขายปีนี้กว่า 3 หมื่นล้านบาท โตขึ้น 20% เนื่องจากรายได้หลักมาจากธุรกิจไฟฟ้า ลั่นปี 62 ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มทั้งในและต่างประเทศ 5 พันเมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท คาด 2 ปีสรุปแนวทางการจัดหาเงินทุนทั้งเข้าตลาดหุ้น ขยายกองทุนโครงสร้างพื้นฐานฯ หรือหาพันธมิตร

นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธานบริษัท บี.กริม เปิดเผยว่า จากปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ (จีดีพี) ปีนี้โตต่ำกว่า 3% นั้น บริษัทฯ ก็ยังคงเป้าหมายรายได้ของบี.กริมไว้กว่า 3 หมื่นล้านบาท หรือโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2.5 หมื่นล้านบาท โดยมีรายได้หลักมาจากธุรกิจไฟฟ้าคิดเป็น 1.9 หมื่นล้านบาทในปีนี้ ซึ่งธุรกิจไฟฟ้าไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมือง และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง คาดทั้งปีกำไรสุทธิโตขึ้น 8% จากปีก่อน 2 พันล้านบาท

ส่วนกลุ่มธุรกิจเครื่องปรับอากาศแบบประหยัด ภายใต้แบรนด์ Carrier และธุรกิจไลฟ์สไตล์ในปีนี้ได้รับผลกระทบบ้าง แต่บริษัทฯ จะหันไปเพิ่มการส่งออกในธุรกิจเครื่องปรับอากาศแบบประหยัดในภูมิภาคอาเซียนจากปัจจุบันที่ส่งออกเพียง 1-2% ไปเวียดนาม ล่าสุด 2 เดือนข้างหน้าจะส่งออกเครื่องปรับอากาศไปบุกตลาดประเทศพม่าด้วย และช่วงฤดูร้อนนี้ ร้อนมากน่าจะทำให้ยอดขายแอร์เพิ่มขึ้น

สำหรับกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ฯ ธุรกิจเพื่อสุขภาพ ธุรกิจด้านคมนาคมขนส่งระบบรางก็ยังเติบโตได้ดี โดยมองว่าไทยยังต้องมีการลงทุนด้านคมนาคมระบบรางเพิ่มขึ้นแม้ว่าโครงการลงทุน 2 ล้านล้านบาทจะล้มไปก็ตาม ล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ 2 พันธมิตรในการสั่งผลิตเรือขนส่งเชิงพาณิชย์ 2 ลำตามมาตรฐานญี่ปุ่น โดยปีนี้ได้มีการเพิ่มการผลิตเรือเพื่อใช้ในการขนส่งสำหรับกองทัพอีก 2 ลำ คิดเป็นวงเงินลงทุนรวม 5 พันล้านบาท คาดว่าจะเสร็จในอีก 2 ปีข้างหน้า ทำให้มีรายได้จากการให้เช่าเรือขนส่งเข้ามาเสริมด้วย

นายลิงค์กล่าวว่า บริษัทกำหนดเป้าครบรอบ 150 ปี บี.กริม หรืออีก 14 ปีข้างหน้าจะมีรายได้รวม 1.5 แสนล้านบาท มาจากธุรกิจไฟฟ้า 1 แสนล้านบาท หากแผนการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าครบ 5,000 เมกะวัตต์บรรลุเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตอยู่ 733 เมกะวัตต์

ซึ่งปีนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงไฟฟ้า SPP เพิ่มอีก 4 โรงในนิคมฯ บางกะดี จ.ปทุมธานี และนิคมฯ อมตะนคร จ.ชลบุรี ใช้เงินลงทุนโรงละ 5 พันล้านบาท และจะสร้างโรงไฟฟ้า SPP เพิ่มเติมอีก 6 โรงในปีถัดไป โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (พีพีเอ) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อยู่แล้ว ทำให้ในปี 2562 บริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็นที่แน่นอน 2,000 เมกะวัตต์ แต่ บี.กริม มองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังประเทศอาเซียน ทั้งพลังงาน เครื่องปรับอากาศ สุขภาพและวิศวกรรม ทำให้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศเพิ่มเป็น 5,000 เมกะวัตต์ในปี 2562

ซึ่งการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าให้ครบ 5,000 เมกะวัตต์คาดว่าใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท และภายใน 2 ปีนี้บริษัทฯ จะต้องเลือกแนวทางการระดมทุนในรูปแบบใด จากขณะนี้ที่ศึกษาอยู่ทั้งการหาพันธมิตรร่วมทุน การนำบริษัทฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ไทย การขยายกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ การออกหุ้นกู้ ฯลฯ โดยการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าของบริษัทฯ ใน 2 ปีนี้จะใช้เงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท

นายลิงค์กล่าวถึงความคืบหน้าการขยายธุรกิจไฟฟ้าในต่างประเทศว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นจำนวน 2 โครงการ โครงการละ 40 เมกะวัตต์ โดยจะร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้ในเร็วๆ นี้

ส่วนการประมูลสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 260 เมกะวัตต์ใช้ก๊าซฯ เป็นเชื้อเพลิง ที่มัณฑะเลย์ ประเทศพม่านั้น บริษัทได้ผ่านการคัดเลือกรอบแล้ว และอยู่ระหว่างรอผลการตัดสินใจจากรัฐบาลพม่าว่าจะเลือกใครเป็นผู้ลงทุน รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพม่าด้วย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสนใจลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหิน และโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่ประเทศมาเลเซีย ส่วนอินโดนีเซียก็สนใจโรงไฟฟ้าถ่านหิน เนื่องจากเป็นประเทศที่มีการเติบโตมาก รวมไปถึง สปป.ลาวก็มีนักลงทุนชวนให้บริษัทฯ เข้าไปร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าพลังน้ำด้วย

ส่วนการขยายโรงไฟฟ้าในประเทศไทยนั้น บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้โครงการโรงไฟฟ้าพลังลมขนาด 45 เมกะวัตต์ที่มุกดาหาร โดยจะร่วมทุนกับพันธมิตรจากเดนมาร์ก ซึ่งแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (พีดีพี) ฉบับใหม่ เห็นว่ารัฐบาลควรให้ความสำคัญในการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า SPP ต่อเนื่องตามความต้องการใช้ไฟฟ้าของภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากโรงไฟฟ้า SPP เป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีการใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ไอพีพี ซึ่งบี.กริม ก็ให้ความสำคัญและมีความพร้อมที่จะลงทุนโรงไฟฟ้า SPP เพิ่มเติมหากรัฐประกาศรับซื้อไฟฟ้าเพิ่ม
กำลังโหลดความคิดเห็น