กทพ.เผยปริมาณจราจรบนทางด่วนยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังลดลงถึง 50% ช่วงชัตดาวน์กรุงเทพฯ โดยขณะนี้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1.5-1.6 ล้านคันต่อวันจากปกติมีเกือบ 1.9 ล้านคันต่อวัน “อัยยณัฐ” เชื่อยังไม่กระทบผลประกอบการปี 57 ขณะที่เตรียมชงลงทุนโครงการทางด่วนสายดาวคะนอง-พระราม 2, สายป่าตอง-กระทู้ หลังมี ครม.ชุดใหม่
นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีการชัตดาวน์กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2557 เป็นต้นมา ปรากฏว่าปริมาณการจราจรบนทางด่วนภาพรวมในช่วงแรกลดลงประมาณ 50% จากปกติที่มีปริมาณจราจรประมาณ 1.8-1.9 ล้านคันต่อวัน โดยส่วนใหญ่เป็นการลดลงของทางด่วนในเขตเมือง ส่วนทางด่วนนอกเมืองไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก โดยขณะนี้แม้การชุมนุมจะรวมอยู่ที่สวนลุมพินีเพียงจุดเดียว แต่ปริมาณจราจรบนทางด่วนเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5-1.6 ล้านคันต่อวัน ซึ่งถือว่าปริมาณเริ่มเพิ่มขึ้นบ้างแล้ว แต่ยังต่ำกว่าปกติอยู่
“ปริมาณจราจรที่เริ่มเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเพราะประชาชนคลายความกังวล เริ่มเข้าใจสภาพปัญหาและสถานการณ์และปรับตัวได้ระดับหนึ่ง ส่วนที่ยังไม่กลับมาใช้ทางด่วนเพราะอาจยังกลัวมีการปิดถนนแล้วทำให้รถลงจากทางด่วนไม่ได้ ทั้งนี้ ยังมั่นใจว่าปริมาณจราจรที่ลดลงในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ในปี 2557 เพราะหากเหตุการณ์สงบปริมาณจราจรอาจจะกลับมาเท่าเดิมและเติบโตตามที่ประมาณการไว้ได้” นายอัยยณัฐกล่าว
นายอัยยณัฐกล่าวว่า ในปี 2557 กทพ.มีแผนที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการทางพิเศษ 2 สาย ที่ศึกษาออกแบบแล้วเสร็จ คือ โครงการทางพิเศษสายพระราม3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ระยะทาง 17.923 กม. วงเงินลงทุน 2.78 หมื่นล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างประเมินสถานะการเงินเพื่อสรุปรูปแบบการลงทุน และโครงการทางพิเศษสายกระทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต วงเงินลงทุนประมาณ 8,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างสรุปผลการศึกษาและเตรียมเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมในเดือนพฤษภาคมนี้
อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินงานโครงการต่างๆ ของ กทพ.จะพยายามเร่งการศึกษาเพื่อสรุปเสนอกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาตามขั้นตอน เพื่อให้โครงการเดินหน้าไปตามแผน เพราะเมื่อเสนอไปตามขั้นตอนและได้รับอนุมัติแล้วก็ยังมีอีกหลายขั้นตอนที่จะต้องดำเนินการกว่าโครงการจะได้ประกวดราคาและเริ่มก่อสร้าง