ปตท.หวั่นปีนี้แบกรับภาระขาดทุนก๊าซเอ็นจีวีและแอลพีจีกว่า 3 หมื่นล้านบาท รอลุ้นรัฐบาลใหม่อนุมัติปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีตามแอลพีจี ลั่นธุรกิจสวนปาล์มที่อินโดนีเซียสวนทางการดำเนินธุรกิจ ปตท.ขายทิ้งแน่ ส่วนท่อก๊าซฯ ในอียิปต์รอศึกษาโอกาสรอด โดยจะนำก๊าซจากอิสราเอลไปขายในอียิปต์แทน
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ คาดว่ายอดการแบกรับภาระการขาดทุนจากการจำหน่ายก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) และก๊าซธรรมชาติเหลวสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) จะเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนที่ขาดทุน 3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากความต้องการใช้ก๊าซที่เพิ่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการขาดทุนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับภาครัฐที่จะยอมให้ปรับขึ้นราคาขายก๊าซเอ็นจีวีหรือไม่ จากปัจจุบันที่จำหน่ายในราคา 10.50 บาท/กก. แต่ต้นทุนเอ็นจีวีอยู่ที่ 15 บาท/กก. ซึ่งในปีที่แล้วความต้องการใช้ก๊าซเอ็นจีวีเติบโตขึ้น 10% แม้ว่า ปตท.จะไม่มีนโยบายเพิ่มสถานีก๊าซเอ็นจีวีก็ตาม ส่วนแอลพีจีคาดว่าจะขาดทุนน้อยลงหลังจากรัฐบาลมีการปรับราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มสำหรับครัวเรือนเดือนละ 50 สตางค์ โดย ปตท.ก็หวังว่าการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มสำหรับครัวเรือนจะทำให้รัฐปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีบ้างเพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง
นายไพรินทร์กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้ ปตท.อยู่ระหว่างการวิเคราะห์และปรับแผนการลงทุนในต่างประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาด โดยโครงการใดที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์และแผนการดำเนินงานของ ปตท.ก็จะตัดขายธุรกิจออกไป อาทิ โครงการปลูกสวนปาล์มบนพื้นที่ 1 พันเฮกตาร์ที่อินโดนีเซีย แม้ว่าจะเป็นธุรกิจที่ดีและมีกำไร แต่เนื่องจากเป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกลุ่ม ปตท. เนื่องจากปาล์มน้ำมันเป็นธุรกิจเกษตรที่ต้องใช้บุคลากรจำนวนมากด้านการเกษตร จึงอาจจะถอนตัวจากธุรกิจนี้ ส่วนจะเป็นเมื่อใดขึ้นอยู่กับความเหมาะสม
ส่วนธุรกิจท่อก๊าซธรรมชาติในอียิปต์นั้น เดิมทีเป็นโครงการที่เกิดขึ้นภายใต้ข้อตกลงสันติภาพระหว่างอียิปต์กับอิสราเอล แต่ภายหลังอียิปต์มีปัญหาการเมืองภายใน และมีก๊าซฯ ไม่เพียงพอ ทำให้ปริมาณก๊าซฯ ที่จะส่งออกจากอียิปต์ไปขายให้อิสราเอลมีน้อยลงไม่เป็นไปตามแผน ขณะที่อิสราเอลมีก๊าซฯ มากขึ้น จึงมีความเป็นไปได้ที่จะนำก๊าซฯ จากอิสราเอลไปขายผ่านท่อไปยังอียิปต์แทน ส่วนธุรกิจเหมืองถ่านหินนับเป็นธุรกิจที่ดีสร้างผลกำไรและสอดคล้องกับการลงทุนของกลุ่ม ปตท. จึงยังมีการดำเนินการต่อไป
