เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ – ตำรวจอิสราเอลประกาศจำกัดอายุชายมุสลิมที่จะเข้าไปละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิดอัล-อักซอ (Al-Aqsa) ในนครเยรูซาเล็ม เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง
ลูบา ซัมรี โฆษกตำรวจอิสราเอลแถลงวานนี้(27)ว่า ชายชาวมุสลิมที่อายุต่ำกว่า 50 ปีจะไม่ได้รับอนุญาตให้ละหมาดวันศุกร์ภายในมัสยิดอัล-อักซอ เนื่องจากตำรวจได้รับข่าวกรองว่ามีผู้วางแผนก่อเหตุรุนแรงหลังการละหมาด ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้นด้วย
คำสั่งดังกล่าวมีขึ้น หลังเหตุการณ์ที่ชาวปาเลสไตน์ขว้างปาก้อนหินใส่ตำรวจที่มัสยิดอัล-อักซอ เมื่อวันอังคาร(25) ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่รัฐสภาอิสราเอลจะเปิดอภิปรายเรื่องสิทธิของชาวยิวในการเข้าไปสวดมนต์ภายในมัสยิดแห่งนี้
ปัจจุบัน ชาวยิวยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาภายในมัสยิด อัล-อักซอ
แม้การอภิปรายในรัฐสภายิวจะสิ้นสุดลงโดยปราศจากการโหวตหรือมาตรการอื่นๆที่เป็นรูปธรรม แต่ก็ได้สร้างความโกรธแค้นต่อชาวมุสลิมทั่วโลก โดยรัฐสภาจอร์แดนซึ่งมีสถานะเป็น “ผู้คุ้มกัน” ศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ในนครเยรูซาเล็มแห่งนี้ได้โหวตขับไล่ผู้แทนอิสราเอล พร้อมเตือนว่ากรุงอัมมานอาจทบทวนข้อตกลงสันติภาพกับอิสราเอล
เมื่อวานนี้(27) องค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) ก็ได้ออกถ้อยแถลงประณาม “การรุกคืบที่อันตราย” ของอิสราเอล โดยชี้ว่าการอภิปรายดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนยึดนครเยรูซาเล็มทั้งหมดเป็นของยิว
อาณาเขตทั้งหมดของมัสยิดอัล-อักซอ หรือที่ชาวมุสลิมเรียกขานว่า “อัล-หะรอม อัล-ชารีฟ” เป็นศาสนสถานที่สำคัญเป็นอันดับ 3 รองจากนครเมกกะ และเมืองมะดีนะห์ในซาอุดีอาระเบีย และเป็นที่ตั้งของ โดม ออฟ เดอะ ร็อก และตัวมัสยิดอัล-อักซอ
อย่างไรก็ตาม ชาวยิวก็ถือว่าสถานที่นี้คือ “เนินวิหาร” (Temple Mount) ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิหารกษัตริย์เฮรอดที่ถูกทำลายโดยกองทัพโรมันเมื่อราวคริสตศักราชที่ 70 และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในศาสนายิว
มัสยิดอัล-อักซอ ถือเป็นพื้นที่เปราะบางที่สุดในเยรูซาเลม และมักเกิดการปะทะระหว่างชาวปาเลสไตน์กับกองกำลังความมั่นคงอิสราเอลบ่อยครั้ง