EGCO จ่อขยายโรงไฟฟ้าลมที่ออสซี่เพิ่ม

เอ็กโก กรุ๊ปจ่อขยายโรงไฟฟ้าพลังลมที่ออสเตรเลียเพิ่มอีก 80-90เมกะวัตต์ ในพื้นที่เดิมโครงการโรงไฟฟ้าพลังลม Boco Rock กำลังผลิต 113 เมกะวัตต์ ที่การก่อสร้างดีเลย์เล็กน้อยแต่มั่นใจเสร็จทัน ม.ค. 58 ส่วนอินโดนีเซียก็อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดโรงไฟฟ้าปากเหมือง 200 เมกะวัตต์ ส่วนประมูลโรงไฟฟ้าถ่านหิน 1.2 พันเมกะวัตต์คงต้องเลื่อนไปเป็นครึ่งปีหลังนี้ รอการเลือกตั้ง ปธน.อินโดฯ เสร็จก่อน

แหล่งข่าวจากบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ เตรียมขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าพลังลมที่ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นอีก 80-90 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังลม Boco Rock Wind Farm (BRWF) กำลังผลิต 113 เมกะวัตต์ที่จะแล้วเสร็จในเดือน ม.ค. 2558 โดยบริษัทฯ จะเจรจากับการไฟฟ้าของออสเตรเลีย หากได้ข้อสรุปก็จะเจรจากับผู้รับเหมาก่อสร้างรายเดิมเพื่อเดินหน้าโครงการใหม่ได้ทันที

“การก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังลม Boco Rock Wind Farm ที่แคนเบอร์รา รัฐนิวเซาท์เวลส์ ล่าช้าไปเล็กน้อย บริษัทฯ จะพยายามเร่งผู้รับเหมาก่อสร้างให้โครงการนี้เสร็จตามกำหนด ส่วนการขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมก็จะทำได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้โครงการเดิมแล้วเสร็จ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับการไฟฟ้าออสเตรเลียอยู่”

แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดความเป็นไปได้ในการลงทุนโรงไฟฟ้าปากเหมืองที่อินโดนีเซีย กำลังการผลิต 200 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นเหมืองถ่านหินที่เมืองเมาราอีนิม จ.สุมาตราใต้ ซึ่งบริษัท เอ็กโก กรุ๊ปถือหุ้นอยู่ 40% โดยโครงการโรงไฟฟ้าปากเหมืองนี้ เอ็กโก กรุ๊ปจะถือหุ้นกึ่งหนึ่ง โดยเตรียมเจรจากับการไฟฟ้าอินโดนีเซียเพื่อตกลงทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า คาดว่าเงินลงทุนประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 9 พันล้านบาท ใช้เวลาดำเนินการและก่อสร้างประมาณ 3 ปีจึงจะผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้

ส่วนความคืบหน้าการเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าถ่านหินที่อินโดนีเซีย ขนาดกำลังผลิต 1,200 เมกะวัตต์นั้น คงต้องเลื่อนออกไปจากเดิมที่คาดว่าจะมีความชัดเจนในต้นปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลอินโดนีเซียได้เลื่อนประมูลโครงการดังกล่าวออกไปเป็นครึ่งปีหลังนี้ เพื่อรอให้ผ่านพ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซียไปก่อน

ทั้งนี้ บริษัทฯ สนใจเข้าร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจในการเข้าประมูลโรงไฟฟ้าถ่านหินที่อินโดนีเซีย โดยเอ็กโกฯ จะถือหุ้นประมาณ 25-30%

นอกจากนี้ เอ็กโกฯ ยังมีความสนใจลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซฯ เป็นเชื้อเพลิงในประเทศเมียนมาร์ ขนาดกำล้งผลิต 200-300 เมกะวัตต์ นอกเหนือจากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินในทวาย แต่โครงการดังกล่าวยังไม่มีข้อสรุปในเร็วๆ นี้

ก่อนหน้านี้ เอ็กโกได้ซื้อหุ้นบริษัท เอเชีย แปซิฟิก รีนิวอเบิล จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังลม BRWF 113 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุน 110 ล้านเหรียญออสเตรเลีย โดยโครงการนี้มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 15 ปี ช่วยสร้างรายได้ให้เอ็กโกฯ ทันทีหลังก่อสร้างเสร็จในต้นปี 2558