เอพี - ทีมสืบสวนเผยในวันพุธ (23) ว่าปฏิบัติการซ้อมรบของกองทัพ คือต้นตอของเหตุไฟป่าครั้งเลวร้ายที่โหมกระพือทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีประชากรหนาแน่นที่สุดของออสเตรเลีย มาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตามทางกระทรวงกลาโหมปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อรายงานดังกล่าว
เหตุไฟไหม้มากกว่า 100 จุดได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 1 ราย และสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนในรัฐนิวเซาท์เวลส์กว่า 200 หลัง นับตั้งแต่มันลุกติดไฟขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีก่อน (17) และจนถึงตอนนี้ครอบคลุมพื้นที่แล้วราว 290 ตารางกิโลเมตร
ล่าสุด หน่วยดับเพลิงชนบทระบุในถ้อยแถลงว่าทีมสืบสวนพบว่า เหตุไฟไหม้จุดใหญ่ๆ จุดหนึ่งใกล้เมืองลิธโกว์ ทางตะวันตกของซิดนีย์ มีต้นเพลิงบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่ซ้อมรบของทางกองทัพ และป่าแถบนั้นลุกติดไฟจากการใช้ระเบิดในการซ้อมรบ
แม้วิกฤตไฟป่าจะล่วงเลยมานาน 1 สัปดาห์ แต่มันยังไม่มีทีท่าจะยุติลงง่ายๆ และสัปดาห์นี้ก็ยังคุกคามบ้านเรือนอีกหลายหลังในบริเวณสปริงวูด จนต้องยกระดับเตือนภัยขั้นสูงสุด อย่างไรก็ตาม ในวันพุธ (23) ก็มีการลดระดับเตือนภัยและชาวบ้านได้รับแจ้งว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความปลอดภัยเพียงพอที่จะกลับเข้าไปได้แล้ว
ทางกระทรวงกลาโหมปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อการค้นพบของหน่วยสืบสวน แต่ก่อนหน้านี้ก็ยอมรับว่ามีการใช้ระเบิดระหว่างการซ้อมรบเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมและได้เปิดเผยในตอนนั้นว่าทางกระทรวงเองก็ได้ดำเนินการสืบสวนหาความเชื่อมโยงระหว่างการซ้อมรบกับเหตุไฟป่าเช่นกัน
ข้อมูลที่พบว่าการซ้อมรบของทหารคือต้นตอของไฟป่าได้เรียกเสียงโกรธเคืองจากนายมาร์ค กรีนฮิลล์ นายกเทศมนตรีบลูเมาน์เทน ชุมชนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงป่าอย่างรุนแรง ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “ผมหวังว่าทางกองทัพควรทราบว่าในวันที่สภาพอากาศแล้ง ร้อนจัดและมีลมกระโชกแรง มันเป็นชนวนติดไฟได้อย่างดี”