เอพี/เอเจนซีส์ - เกิดไฟป่าโหมกระหน่ำในพื้นที่หลายสิบจุด ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียในวันฤดูร้อนที่มีสภาพอากาศแห้งแล้ง และลมแรงอย่างวันนี้ (9 ก.พ.) ส่งผลให้บ้านเรือนหลายหลังถูกเพลิงเผาผลาญวอดวาย และนักผจญเพลิงได้รับบาดเจ็บหนึ่งคน เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจระบุ
เครก แลปสลีย์ อธิบดีกรมดับเพลิงรัฐวิกตอเรีย แถลงว่า เกิดไฟป่าลุกไหม้จนเกินควบคุม 37 จุด ทั่วรัฐนี้ สร้างความเสียหายต่อเมืองต่างๆ ในพื้นที่ชนบท ตลอดจนแถบชานเมืองเมลเบิร์น เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของแดนจิงโจ้
ทางด้าน อนุเชีย ศิวะเนศวร โฆษกของการดับเพลิงเทศมณฑลกล่าวว่า มีบ้านเรือนในวิกตอเรียได้รับความเสียหายหลายหลัง แต่เหล่าเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจยังไม่ได้ระบุตัวเลขที่แน่ชัด
นอกจากนี้ แลปสลีย์ ยังบอกด้วยว่า มีนักผจญเพลิงได้รับบาดเจ็บหนึ่งราย หลังถูกต้นไม่ล้มทับ โดยขณะนี้เขาถูกส่งตัวไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว
ตามข้อมูลของแลปสลีย์ สถานการณ์ไฟป่าในตอนนี้ถือว่าเป็นครั้งที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2009 เมื่อไฟป่าคร่าชีวิตประชาชนไป 173 ราย และเผาผลาญบ้านเรือนในรัฐวิกตอเรียกว่า 2,000 หลัง ภายในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน
เขาชี้ว่า กระแสลมแรงได้โหมกระพือเปลวเพลิงให้ลุกไหม้รุนแรงยิ่งกว่าเดิม ทั้งยังเป็นอุปสรรคต่อการส่งเครื่องบินออกไปทิ้งน้ำดับไฟ
ส่วนที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งอยู่ติดกัน กรมดับเพลิงชนบทรายงานว่า เกิดเพลิงไหม้ขึ้น 50 จุด ซึ่งหนึ่งในจำนวนดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดการสัญจรบนทางหลวงฮูม ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างเมืองเมลเบิร์น กับนครซิดนีย์ ที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียเป็นการชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ยังไม่มีรายงานว่า มีบ้านเรือนในนิวเซาท์เวลส์ รัฐที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของแดนจิงโจ้ ได้รับความเสียหายจากไฟป่าแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ในช่วงฤดูร้อนมักเกิดไฟป่าปะทุขึ้นในหลายพื้นที่ของออสเตรเลียอยู่เป็นประจำ
พื้นที่บางส่วนของรัฐนิวเซาท์เวลส์ และวิกตอเรีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ ต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่พุ่งทะลุ 40 องศาเซลเซียส