xs
xsm
sm
md
lg

“ทรูคอฟฟี่” เร่งเครื่องบี้เชนอินเตอร์ ปีนี้เปิด 100 แห่งไต่เป้ารีจินัลแบรนด์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิรัตน์ เตชะนิรัติศัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรู ไลฟ์สไตล์ รีเทล จำกัด
ทรูคอฟฟี่” เร่งเบียดคู่แข่งอินเตอร์แบรนด์ร้านกาแฟ หวังขึ้นเป็นที่หนึ่ง และรีจินัลแบรนด์ใน 5 ปี พร้อมรุกตลาดเออีซีและเอเชีย เป้าหมาย 5 ปีสาขารวม 400 แห่ง เป็นแฟรนไชส์ต่างประเทศ 20% ปีนี้ลั่นเปิด 100 สาขา

นายวิรัตน์ เตชะนิรัติศัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรู ไลฟ์สไตล์ รีเทล จำกัด ผู้บริหารร้านทรูคอฟฟี่ ในเครือซีพี เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปีจากนี้จะต้องผลักดันให้ทรูคอฟฟี่ก้าวขึ้นเป็นที่หนึ่งในตลาดกาแฟพรีเมียมในไทย และก้าวสู่การเป็นรีจินัลแบรนด์ในเอเชียให้ได้ด้วยการขยายตลาดต่างประเทศ หลังจากที่ได้ดำเนินการมาแล้ว 8 ปี มีผลประกอบการปีที่แล้วเติบโต 25%

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยอมรับว่ายังเป็นรองคู่แข่งแบรนด์อินเตอร์อยู่ ซึ่งเรายังแพ้ในเรื่องของจำนวนสาขา และความแข็งแกร่งของแบรนด์ แต่ได้เรื่องภาพลักษณ์ คุณภาพ และความแข็งแกร่งด้านบริการและการผนึกกำลังกับธุรกิจในเครือด้วยกัน ส่วนราคาเราต่ำกว่า 15%

“เรามีเครือข่ายของเราผนึกกำลังกันตลอดเวลา เช่น มีค่ายซีพีเอฟ ซีพีแรม เป็นผู้ช่วยคิดค้นพัฒนาทางด้านอาหาร ส่วนบุคลากรเราก็มีสถาบันปัญญาภิวัฒน์ ส่วนเรื่องทำเลเราก็ร่วมมือกับทางซีพีเฟรชมาร์ทหรือซีพีฟู้ดเวิลด์ หรือแม้แต่การทำโปรโมชันกันกับเครือเช่นร้านทรู เป็นต้น”

โดยแผนงาน 5 ปีจะขยายสาขาให้ครบ 400 สาขา เป็นแฟรนไชส์ 50% และเป็นสาขาในต่างประเทศ 20% และเป็นสัดส่วนรายได้ต่างประเทศ 20% ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าเปิดสาขา 100 แห่ง ลงทุนแล้วแต่ขนาดร้าน มีตั้งแต่เล็ก 30 ตารางเมตร ลงทุน 2-2.5 ล้านบาท ขนาดกลาง พื้นที่ 90 ตารางเมตร ลงทุน 3-4 ล้านบาท และขนาดใหญ่ 100 ตารางเมตรขึ้นไป ลงทุน 5-6 ล้านบาท จากปัจจุบันมีสาขารวม 100 สาขา เป็นแฟรนไชส์ 30% และมีสาขาในต่างประเทศรูปแบบขายแฟรนไชส์รวม 5 สาขาที่เปิดแล้ว

ในต่างประเทศมีเปิดที่ลาว 2 สาขา และกัมพูชา 3 สาขา นอกนั้นยังอยู่ระหว่างการเจรจาอีก เช่นที่พม่า เป้าหมายต่อไปคือ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เป็นต้น ส่วนที่จีนก็อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะเปิดที่ปักกิ่งปีนี้

ตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ที่จะเปิดในปี 2558 ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ มีประชากรรวมกันกว่า 600 ล้านคน ใหญ่กว่าตลาดประเทศไทย 6 เท่า เป็นตลาดที่มีโอกาสในการขยายอย่างมาก ซึ่งก้าวแรกเราจะเน้นตลาดเออีซีก่อน แล้วต่อไปก็จะเป็นตลาดเอเชีย และก้าวสู่การเป็นรีจินัลแบรนด์ให้ได้

ขณะที่ตลาดร้านกาแฟในไทยนั้น นายวิรัตน์กล่าวว่า ตลาดเชนร้านกาแฟในไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก และเป็นตลาดที่มีศักยภาพอย่างมาก แต่ก็เป็นตลาดที่มีการแข่งขันที่รุนแรง มีแบรนด์ต่างประเทศรุกเข้ามาทำธุรกิจมากขึ้น จากปัจจุบันมูลค่าตลาดกาแฟโดยรวมในไทยมากกว่า 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดกาแฟพรีเมียมประมาณ 20% หรือมูลค่า 6,000 ล้านบาท เติบโต 10% นอกนั้นก็เป็นตลาดกาแฟรถเข็นทั่วไป และตลาดกาแฟอินสแตนท์

“ปีนี้เราได้มีการปรับตัวหลายอย่างเพื่อรองรับการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้นในตลาดรวม ทั้งการรีวิวเมนูอาหาร เครื่องดื่ม เบเกอรี จับมือกับพันธมิตรนอกเครือทำการตลาดมากขึ้น ซึ่งหลังจากที่เริ่มมีการปรับไปบ้างแล้ว ส่งผลให้สองเดือนแรกปี 2557 นี้มีการเติบโตมากถึง 35% ขณะที่ทั้งปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 25%”



กำลังโหลดความคิดเห็น