“สตาร์บัคส์” โหมตลาดเอเชีย เล็งส่ง “ม่วนใจ๋เบลนด์” ทั่วโลก

“สตาร์บัคส์” โฟกัสตลาดเอเชีย เน้นจีน-อินเดียเพิ่มสาขาเท่าตัว ส่วนตลาดไทยยังมีโอกาสโตต่อเนื่อง พร้อมเปิดตัวร้านกาแฟเพื่อชุมชนแห่งแรกในไทยและเอเชีย และแห่งแรกนอกอเมริกา พร้อมเล็งส่งออกกาแฟ “ม่วนใจ๋เบลนด์” ทั่วโลก

นายฮาวเวิร์ด ชูลท์ซ ประธานบริษัท ประธานกรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร้านกาแฟสตาร์บัคส์ เปิดเผยว่า แผนของสตาร์บัคส์จากนี้จะยังคงมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีประมาณ 19,000 สาขาใน 62 ปรเทศทั่วโลก โดยในช่วงนี้จะให้ความสำคัญต่อตลาดประเทศจีนกับอินเดียเป็นหลักเพราะเป็นตลาดที่ใหญ่และมีศักยภาพ โดยปัจจุบันในจีนมีสตาร์บัคส์ประมาณ 850 สาขา และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 1,500 สาขา หรืออีกเท่าตัวภายในปี 2558 ส่วนอินเดียจะเปิดอีก 12 สาขาในปีนี้

นอกนั้นในเอเชียก็จะมีการขยายในเวียดนามอีก 1 สาขา ส่วนประเทศไทยโดยเฉลี่ยแล้วจะเปิดปีละประมาณ 10-12 สาขา และตั้งเป้าหมายว่าในไทยจะมีสาขาเป็น 303 สาขา หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวภายในปี 2561 จากปัจจุบันมี 168 สาขา ล่าสุดเปิดที่อุบลราชธานี และสุราษฎร์ธานี

“ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาจะตกต่ำ แต่สตาร์บัคส์ก็สามารถทำยอดขายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เราสามารถสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งได้ เพราะเรามีพาร์ตเนอร์และลูกค้าที่ดี นอกจากนั้นเรายังทดลองเอาเครื่องดื่มไวน์มาขายในบางสาขาที่อเมริกาด้วย แต่ยังไม่สรุปว่าจะนำมาขายถาวรหรือทุกร้านหรือไม่”

ส่วนในไทยมองว่าตลาดร้านกาแฟพรีเมียมยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ประเทศไทยมีกาแฟพันธุ์อะราบิกาที่ดี และเราก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปลูกกาแฟของไทยอย่างดีมาตลอด เรายังมีกาแฟม่วนใจ๋เบลนด์ที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย ซึ่งอนาคตวางแผนที่จะส่งกาแฟม่วนใจ๋เบลนด์จากไทยไปจำหน่ายต่างประเทศด้วยผ่านเครือข่ายร้านสตาร์บัคส์ทั่วโลก

ล่าสุดสตาร์บัคส์ได้ให้ความสำคัญต่อตลาดประเทศไทยด้วยการเปิดร้านกาแฟเพื่อชุมชนสตาร์บัคส์ หรือคอมมูนิตีสโตร์ เป็นแห่งแรกในไทย และนอกตลาดสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ที่สาขาหลังสวน แต่ถือเป็นสาขาที่ 4 ของสตาร์บัคส์ทั่วโลก ซึ่งอีก 3 ร้านตั้งอยู่ที่ลอสแองเจลิส นิวยอร์ก และเทกซัส ทั้งนี้ ร้านกาแฟเพื่อชุมชนจะมีแนวทางที่แตกต่างกันไปตามแต่ความต้องการของแต่ละชุมชน

สำหรับในไทย ร้านกาแฟเพื่อชุมชนจะมอบรายได้ 10 บาทจากการจำหน่ายเครื่องดื่มสตาร์บัคส์ทุกแห่งที่ร้านแห่งนี้มอบให้แก่องค์กรพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน หรือไอทีดีพี เพื่อเป็นเงินสนับสนุนในการสร้างศูนย์การเรียนรู้ให้แก่ชุมชนบ้านแม่ขี้มูกน้อย บ้านกองกาย อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาสตาร์บัคส์ได้มอบความช่วยเหลือแก่ชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของไทยมานานกว่า 10 ปี โดยรายได้ 5% ของการจำหน่ายกาแฟม่วนใจ๋เบลนด์ ซึ่งเป็นกาแฟที่ปลูกทางภาคเหนือของไทยได้ถูกนำกลับมาพัฒนาและช่วยเหลือชุมชนที่เพาะปลูกกาแฟม่วนใจ๋เบลนด์นั่นเอง