xs
xsm
sm
md
lg

“ซีพี-เมจิ” โวขึ้นบัลลังก์แชมป์ตลาดโยเกิร์ตใน 3-5 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุจริต มัยลาภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด
ทุ่มงบกว่า 35 ล้านบาทประเดิมตลาดรับปีม้าคึกคัก เปิดตัว “โยเกิร์ตเมจิ รอยัล ฟูจิ แอปเปิ้ล” รสชาติใหม่สายพันธุ์แท้จากญี่ปุ่น หลังวิจัยพบเป็นรสชาติที่ผู้บริโภคชื่นชอบถึง 99% สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่มีเพียง 73% หวังเจาะกลุ่มวัยรุ่นอายุ 18-25 ปีที่ใส่ใจสุขภาพ คาดยอดขายเพิ่ม 1 ล้านถ้วยต่อเดือน

นายสุจริต มัยลาภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดโยเกิร์ตในปี 2556 เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 17% เมื่อเทียบกับปี 2555 คิดเป็นมูลค่าตลาดกว่า 4,500 ล้านบาท โดยปัจจุบันซีพี-เมจิ ครองส่วนแบ่งทางตลาดโยเกิร์ตเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ 22% แต่จากแผนการทำตลาดที่บริษัทมุ่งเน้นการออกสินค้าใหม่และกลยุทธ์การตลาดที่เหนือคู่แข่งนั้น คาดว่าจะสามารถขึ้นเป็นผู้นำตลาดภายในระยะเวลา 3-5 ปีได้อย่างแน่นอน

“จากการศึกษาพบว่าตลาดโยเกิร์ตในไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจุบันคนไทยหันมาใส่ใจรักสุขภาพมากขึ้น โดยเลือกบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางสารอาหารเป็นปัจจัยสำคัญ ส่งผลให้ตลาดในประเทศไทยแข่งขันกันสูงขึ้นด้วยการออกสินค้าใหม่ของแบรนด์หลักอย่างต่อเนื่อง และการทำกิจกรรมทางการตลาดที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง”

ในฐานะที่บริษัทเป็นผู้นำด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตที่มีรสชาติไม่ซ้ำใคร จึงได้ออกผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่ล่าสุด “โยเกิร์ตเมจิ รอยัล ฟูจิ แอปเปิ้ล” ซึ่งมีส่วนผสมที่เข้มข้นของเนื้อโยเกิร์ตเข้ากันกับความหอมอร่อยของรสชาติและความกรุบกรอบของเนื้อแอปเปิลสายพันธุ์ดี “รอยัล ฟูจิ” ที่อุดมไปด้วย 3 คุณประโยชน์เพื่อสุขภาพ ประกอบด้วย คอเลสเตอรอล 0%, ไขมันต่ำและน้ำตาลน้อย โดยจะเริ่มวางจำหน่ายขนาดบรรจุ 140 กรัม ราคา 14 บาท ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขา หลังจากนั้นในช่วงเดือนเมษายน 2557 จะเริ่มจำหน่ายขนาดบรรจุ 90 กรัม ราคา 10 บาทที่ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ

“เรามั่นใจว่าโยเกิร์ตเมจิ รอยัล ฟูจิ แอปเปิ้ล จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค หลังจากที่บริษัทได้ทำการวิจัยตลาดในการหาโยเกิร์ตรสชาติใหม่ๆ ที่กลุ่มเป้าหมายชื่นชอบ พบว่ารอยัล ฟูจิ แอปเปิ้ลเป็นรสที่ผู้บริโภคให้คะแนนความชื่นชอบสูงที่สุด โดยมีคะแนนความชื่นชอบสูงถึง 99% หลังจากได้ชิม ถือเป็นคะแนนที่สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตที่อยู่ประมาณ 73% เท่านั้น”

สำหรับงบประมาณการตลาดครั้งนี้วางไว้ที่ 35 ล้านบาท โดยจะเน้นการตลาดแบบครบวงจร รวมถึงกิจกรรมทางออนไลน์เพื่อสร้างความใกล้ชิดกับผู้บริโภค และกิจกรรมแจกชิมสินค้าตัวอย่างกว่าหลายแสนถ้วย รวมถึงโปรโมชันและกิจกรรม ณ จุดขาย เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นชาย-หญิง อายุ 18-25 ปี ที่เริ่มหันมาดูแลตัวเอง อยากดูดี และเลือกรับประทานสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ คาดว่าจะสามารถทำยอดขายเพิ่มเติมได้ 1 ล้านถ้วยต่อเดือน


กำลังโหลดความคิดเห็น