xs
xsm
sm
md
lg

“เซ็ปเป้” โอดกำไร Q1/59 หด เหตุการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่มีความชัดเจน (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE
ประธานบอร์ด SAPPE บ่นอุบ กำไรไตรมาส 1/2559 ไม่เข้าเป้าเหตุไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจน อีกทั้งบริษัทฯ ปรับกลยุทธ์ทำตลาดฤดูร้อนผิดช่วงเร็วกว่ากำหนด แต่ยังตั้งเป้ารายได้เติบโตในปีนี้คาดว่าไม่น้อยกว่า 15% เนื่องจากมีการย้ายโรงงานมาอยู่ที่ใหม่ ทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากขึ้น และลดต้นทุนการผลิตขวดลง แย้มดีล M&A อยู่ในขั้นเจรจา คาดได้ข้อสรุปเร็วๆนี้



น.ส.ปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE กล่าวถึงแผนธุรกิจในปีนี้ว่า บริษัทฯ คาดว่ากำลังซื้อในปีนี้จะไม่เติบโตเท่าที่ควร เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศยังไม่มีความชัดเจนมากนัก แต่ทั้งนี้หากพิจารณาจากยอดขายในต่างประเทศปีที่ผ่านมา พบว่า มียอดขายเติบโตมากถึง 60% จากยอดขายรวมทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม จากการที่กำไรในไตรมาสที่ 1/2559 ที่ปรับตัวลดลงนั้น เนื่องจากในปีนี้เป็นปีแรกที่บริษัทปรับกลยุทธ์การออกสินค้าใหม่ที่จำหน่ายภายในประเทศให้ทันในช่วงฤดูร้อน จากเดิมที่จะออกแคมเปญสินค้าใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 2 ซึ่งหากคิดเป็นจำนวนเปอร์เซ็นซึ่งมากถึง 19% ทำให้กำไรที่ควรจะได้ในไตรมาสที่ 1/2559 ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสัดส่วนการขายในกลุ่มประเทศทวีปเอเชียในไตรมาสที่ 1/2559 อยู่ที่ 40% ของยอดขายรวมทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะเป็นกลุ่มประเทศทวีปยุโป และอเมริกา

ขณะที่ในส่วนของผลประกอบการรายได้รวมในปี 2559 บริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะให้มีรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 15% ขณะที่ในส่วนของกำไรนั้นคาดว่าจะดีกว่าปีก่อนหน้า เนื่องจากบริษัทฯ มีการย้ายโรงงานจากบางชัน มาอยู่ที่โรงงานใหม่บริเวณรังสิต คลอง 13 เกือบทั้งหมดแล้ว ซึ่งการที่บริษัทฯ ย้ายโรงงานมาที่ใหม่ในไตรมาสที่ 4/2558 ทำให้มีความล่าช้าในกระบวนการผลิต แต่คาดว่าหลังจากที่ได้ติดตั้งเครื่องจักรใหม่ทั้งหมด และมีการทดสอบเครื่องจักรใหม่เรียบร้อยแล้ว จะทำให้บริษัทสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มีความรวดเร็ว และปริมาณมากขึ้น และสามารถลดต้นทุนในการผลิตขวดได้มากขึ้น ขณะที่ในส่วนของการตลาดนั้นจะมีการควบคุมในเรื่องการใช้งบประมาณเพื่อลดต้นทุน และให้มีความคุ้มค่ามากขึ้น

ในส่วนของการเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการ หรือ M&A ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของการเจรจา ซึ่งคาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปได้อย่างน้อย 1 ราย ภายภายในเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ ในปี 2558 บริษัทมีรายได้รวม จำนวน 2,625 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั้งในไทย และต่างประเทศ แต่บริษัทฯ ยังได้ผลักดันให้ยอดขายมีการเติบโตเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยตลาดภายในประเทศแบ่งทางการตลาดใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ภายใต้ตราสินค้าอันได้แก่ เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ มีส่วนแบ่งการตลาด 33% เซ็ปเป้ อโล เวร่า ดริ้งค์ มีส่วนแบ่งการตลาด 51% และกาแฟเพรียว คอฟฟี่ มีส่วนแบ่งการตลาด 27% ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ โมกุ โมกุ ยังคงได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่องในตลาดต่างประเทศ ซึ่งสามารถขยายตัวได้ดีในอีกหลายประเทศ พร้อมนำเสนอรสชาติใหม่ต่อผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น