กระทรวงพลังงานควง ปตท.ดูพื้นที่หลังตำรวจเคลียร์ม็อบ คาดเข้าทำงานได้สัปดาห์หน้าโดยขอเวลาฟื้นฟูก่อน ขณะที่ ปตท.จ่อฟ้องเรียกค่าเสียหาย คาดหลายร้อยล้าน อ้างทำงานข้างนอก แถมทรัพย์สินเสียหายยกตัวอย่างตู้เย็นอาจต้องโละทิ้ง 600 เครื่อง
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการเข้ามารับฟังสถานการณ์การเข้าเคลียร์พื้นที่ศูนย์เอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ที่เป็นที่ทำการของกระทรวงพลังงาน ปตท. และบริษัทในเครือเมื่อช่วงเวลา 16.00 น.ของวันที่ 18 ก.พ.ว่า คาดว่าจะต้องใช้เวลา 1 สัปดาห์ในการทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบจึงสามารถเข้ามาปฏิบัติงานได้หลังจากนั้นซึ่งคงเป็นช่วงสัปดาห์หน้า
“ทาง ปตท.ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างประเมินความเสียหายและหาหลักฐานเพิ่มเติมซึ่งเราเองเป็นฝ่ายราชการจำเป็นต้องรักษาสิทธิ์ ดูแลทรัพย์สินฝ่ายราชการ และขอร้องถ้าเป็นไปได้ไม่ต้องการให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก” นายสุเทพกล่าว
สำหรับข้อเสนอที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องโดยเฉพาะให้ลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินลงทันที 5บาทต่อลิตรนั้น นายสุเทพกล่าวว่า จะรับข้อเสนอไว้พิจารณาและขอดูรายละเอียดเนื่องจากข้อเสนอมีหลายกลุ่ม หลายเวที และหลายประเด็น ซึ่งบางเรื่องเป็นระดับนโยบายที่เป็นเรื่องของรัฐบาลจะต้องตัดสินใจและรัฐบาลรักษาการทำไม่ได้
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.กล่าวว่า ขณะนี้ ปตท.กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อเรียกร้องความเสียหายต่อไป ซึ่งเบื้องต้นความเสียหายหลักหลาย 100 ล้านบาท ซึ่งค่าเสียหายส่วนหนึ่งเกิดจากการที่พนักงานต้องไปปฏิบัติงานนอกพื้นที่ถึง 1 เดือนกับ 5 วัน
“การทำงานนอกพื้นที่ของพนักงานทั้ง ปตท.และในเครือมีค่าใช้จ่ายค่าเช่าที่ ค่าพาหนะเดินทาง และจะต้องมาฟื้นฟูความเสียหายอื่นๆ อย่างตู้เย็นมีอาหารเสียคิดว่าคงต้องทิ้ง 600 เครื่อง CCTV ที่เสียหาย เราคงจะต้องฟ้องแกนนำ ซึ่งการที่เราทำงานข้างนอกครั้งนี้พิสูจน์ว่าเราเข้มแข็งแต่ความปลอดภัยเราคงต้องเสริมให้มากกว่านี้” นายไพรินทร์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 16.00 น. ปลัดกระทรวงพลังงานและทีมผู้บริหารได้เข้ามาสักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงคือพระพรหม และศาลพระภูมิเจ้าที่ ก่อนที่จะรดน้ำต้นประดู่พระราชทาน และต้นจำปีพระราชทานหลังกองร้อยตำรวจ 711 และ 721 รวมกว่า 300คนได้เข้าเคลียร์พื้นที่จากผู้ชุมนุมได้ภายในเวลา 09.00 น.
