ไทยออยล์คาดสเปรดพาราไซลีนน่าจะดีขึ้นในครึ่งปีหลังนี้ หลังโรงงานผลิตพีทีเอใหม่ทยอยขึ้น และโรงงานผลิตพาราไซลีนบางโรงต้องลดกำลังการผลิตลงเพราะไม่มีวัตถุดิบป้อน ทำให้กำลังการผลิตบางส่วนหายไปจากตลาด แต่ปีนี้สเปรดพาราไซลีนต่ำกว่าปีก่อนที่เฉลี่ยตันละ 400-500 เหรียญสหรัฐ
แหล่งข่าวจากบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาอะโรเมติกส์ในปีนี้ โดยเฉพาะพาราไซลีนที่ราคาอ่อนตัวลงมามากในช่วงนี้ เกิดจากกำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้น 20.7% แต่ความต้องการใช้โตขึ้นเพียง 8% ทำให้ปริมาณพาราไซลีนในปีนี้เกิน 3.4 ล้านตัน แต่โรงงานผลิตสารพีทีเอใหม่ในจีน ซึ่งใช้พาราไซลีนเป็นวัตถุดิบในการผลิตนั้นจะค่อยๆ ทยอยเปิดโรงงานหลังกลางปีนี้ ทำให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับ ULG 95 (สเปรด) น่าจะขยับตัวดีขึ้น แต่ต่ำลงกว่าปีก่อนที่มีสเปรดอยู่ที่ 400-500 เหรียญสหรัฐ/ตัน
นอกจากนี้ โรงงานผลิตพาราไซลีนใหม่มีแนวโน้มต้องลดกำลังการผลิตลง 10-30% เนื่องจากไม่มีวัตถุดิบในการผลิต อาทิ มิกซ์ไซลีน ส่งผลให้กำลังการผลิตพาราไซลีนส่วนหนึ่งหายไปจากระบบ ขณะที่บริษัทย่อยของไทยออยล์ คือ บริษัท พาราไซลีน จำกัดนั้นไม่มีปัญหาด้านวัตถุดิบ เพราะได้รับวัตถุดิบป้อนจากโรงกลั่นไทยออยล์อยู่แล้ว
ส่วนราคาเบนซีนพบว่าปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากสหรัฐฯ ยังขาดแคลนเบนซีนต่อเนื่องจากปลายปีที่แล้ว ทำให้ต้องนำเข้าไปจากเอเชียซึ่งมีกำลังการผลิตส่วนเกินอยู่ ส่งผลให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบ (สเปรด) อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี ช่วยเสริมรายได้ของไทยพาราไซลีนไม่ให้ลดลงมากนักจากราคาสารพาราไซลีนที่อ่อนตัวลง
ในปี 2556 ไทยออยล์มีรายได้ 4.14 แสนล้านบาท ลดลงร้อยละ 7 เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์โดยเฉลี่ยปรับลดลงจากอุปสงค์ที่ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว นอกจากนี้ จากส่วนต่างราคาของผลิตภัณฑ์ และวัตถุดิบของโรงกลั่น ส่งผลให้กำไรขั้นต้นจากการผลิตรวมของกลุ่มไม่รวมผลกระทบจากสต๊อกนํ้ามันปรับตัวอยู่ที่ 6.8 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.9 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยมีผลกำไรจากสต๊อกนํ้ามัน 2,624 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปีก่อนที่มีผลขาดทุนจากสต๊อกนํ้ามัน 2,592 ล้านบาท และมีต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นจากการออกหุ้นกู้สกุลเหรียญสหรัฐ และมีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิเพิ่มขึ้น ทำให้ปี 2556 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1.03 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.23 หมื่นล้านบาท
โดยปี 2556 ธุรกิจอะโรเมติกส์สร้างรายได้ให้ไทยออยล์ 6.45 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 4 พันล้านบาท นับเป็นธุรกิจที่สร้างกำไรสูงกว่าธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันที่ปี 2556 ที่โรงกลั่นน้ำมันมีรายได้อยู่ที่ 4.09 แสนล้านบาท แต่มีกำไรสุทธิ 3.01 พันล้านบาท ลดลงจากปี 2555 เกิน 50% แต่ปีนี้คาดว่าธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันจะมีค่าการกลั่นน้ำมันดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว และน่าจะเป็นธุรกิจหลักที่สร้างผลกำไรให้ไทยออยล์อีกครั้ง