“พาณิชย์” เตรียมเชิญโรงชำแหละ เขียงหมู มาหารือ หลังพบโก่งราคาขายหมูเนื้อแดงทะลุกิโลกรัมละ 160 บาท เกินไปกว่าราคาเพดานที่กำหนด ขู่หากไม่เชื่อฟังงัดกฎหมายเล่นงานทันที พร้อมจับมือสมาคมหมูงัดหมูธงฟ้าแทรกแซงตลาด แนะผู้บริโภคกินโปรตีนประเภทอื่นทดแทนไปก่อน คาดหลังพ้นตรุษจีนราคาหมูลดลง
นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ มีแผนที่จะเรียกผู้ประกอบการโรงชำแหละและผู้ประกอบการเขียงหมูในพื้นที่ที่มีปัญหาถูกร้องเรียนว่าขายหมูเกินราคาแนะนำที่กรมฯ กำหนดไว้มาก โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวะฉะเชิงเทรา และราชบุรี ซึ่งกำหนดให้ราคาขายปลีกเนื้อหมูไม่เกินกิโลกรัม (กก.) ละ 140-150 บาท แต่มีการโก่งราคาขายเกิน กก.ละ 155-160 บาท มาหารือถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และหาทางป้องกันไม่ให้มีการขายเกินราคาแนะนำที่กรมฯ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค
“ที่ผ่านมากรมฯ ได้คุยกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติแล้วว่าจะตรึงราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มไม่ให้เกิน กก.ละ 72 บาท ซึ่งราคาดังกล่าวจะทำให้ราคาขายปลีกเนื้อหมูไม่เกิน 140-150 บาทในส่วนของพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพฯ หากพื้นที่ไหนขายเกินราคาก็ต้องเรียกมาสอบถาม หากตักเตือนไม่เชื่อ ก็จะใช้มาตรการทางกฎหมายจัดการ เพราะถือว่าจงใจทำให้ราคาปั่นป่วน มีโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 จำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
นายสมชาติกล่าวว่า กรมฯ ยังมีแผนที่จะเรียกผู้ประกอบการตลาดสดมาขอความร่วมมือให้มีการขายหมูเนื้อแดงตามราคาแนะนำที่กรมฯ กำหนด พร้อมติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจนเพื่อให้ผู้บริโภคตรวจสอบราคา ซึ่งหากได้รับการร้องเรียนไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า และตรวจพบว่าเป็นความจริงจะมีโทษปรับ 1 หมื่นบาท
ทั้งนี้ ในช่วงที่เนื้อหมูมีราคาแพงในขณะนี้เพราะปริมาณหมูเข้าสู่ตลาดลดลง ประกอบกับความต้องการบริโภคสูงขึ้นจากการเข้าใกล้เทศกาลตรุษจีน กรมฯ จะรณรงค์ให้ประชาชนบริโภคโปรตีนชนิดอื่นที่มีราคาถูกกว่าไปก่อนเพื่อเป็นทางเลือก เช่น การบริโภคเนื้อไก่ เนื้อปลาในช่วงที่หมูมีราคาสูงขึ้น โดยเชื่อว่าหลังจากผ่านเทศกาลตรุษจีนไปแล้ว ราคาเนื้อหมูจะปรับลดลงตามกลไกตลาด
ส่วนการช่วยดูแลค่าครองชีพให้แก่ประชาชนในช่วงที่เนื้อหมูมีราคาแพง กรมฯ จะหารือกับสมาคมผู้เลี้ยงหมูแห่งชาติจัดทำโครงการหมูธงฟ้าเข้ามาแทรกแซงตลาด โดยจะขายเนื้อหมูในราคาไม่เกิน กก.ละ 140 บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพให้แก่ประชาชน
สำหรับสถานการณ์สินค้าประเภทอื่นๆ ยังไม่ได้รับการร้องเรียนว่ามีปัญหาในเรื่องราคาแพงขึ้น หรือมีปัญหาการขาดแคลน หรือกักตุนสินค้า ในช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมืองที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ จึงขอให้ประชาชนเบาใจได้ แต่หากพบว่ามีปัญหาเกี่ยวกับราคาสินค้า สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 ซึ่งกรมฯ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบทันที
