xs
xsm
sm
md
lg

ไข่”ปู”แพงฉุดไม่อยู่ชาวบ้านต่อคิวซื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ชาวบ้านเข้าคิวซื้อไข่ไก่ที่พาณิชย์ หลังราคาในตลาดท้องขยับขึ้นอีกฟองละ 5-10 สตางค์ แถมเนื้อหมูยังแพงกว่าราคาแนะนำ รวมถึงพริกขี้หนู คะน้า ผักกาดขาว

นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสารทจีน อย่างราคาเครื่องเส้นไหว้ส่วนใหญ่ ไม่ได้มีการปรับตัวสูงขึ้น หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยกเว้นราคาเนื้อหมู อาจมีการปรับราคาขึ้นไปบ้าง แต่กรมการค้าภายในได้หารือกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติขอความร่วมมือเพื่อไม่ให้ราคาสูงไปมากกว่านี้ และยืนยันว่าสินค้าจะไม่เกิดการขาดแคลน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า การจัดงาน“มหกรรมพาณิชย์ผลิตภัณฑ์เด่นทั่วไทย” ครั้งนี้ ได้มีประชาชนมาต่อแถวเพื่อซื้อสินค้าราคาพิเศษเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะไข่ไก่ มีประชาชนเข้าคิวซื้อมากเป็นพิเศษ โดยกระทรวงพาณิชย์นำไข่ไก่เบอร์ 2 จากปกติถาดละ 110 บาท หรือประมาณฟองละ 3.66 บาท มาจำหน่ายถาดละ 75 บาท หรือแค่ฟองละ 2.5 บาท

ทั้งนี้ จากการสอบถามประชาชนที่มาต่อแถวซื้อไข่ไก่ ได้ให้ข้อมูลว่า เป็นเพราะราคาในท้องตลาดทั่วไปได้ขยับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาเริ่มต้นสัปดาห์นี้สูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อนอีก 5-10 สตางค์/ฟอง โดยเฉพาะราคาไข่ไก่เบอร์ 0 ซึ่งเป็นเบอร์ใหญ่สุด ราคาบางพื้นที่ได้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นฟองละ 5 บาทแล้ว จากเดิมฟองละ 4-4.5 บาท

นอกจากนี้ ยังพบว่า สินค้าอื่นๆ ก็มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเนื้อหมูยังคงจำหน่ายในราคากิโลกรัม (กก.) ละ 140-145 บาท สูงกว่าราคาแนะนำ 140 บาท ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และภาคกลาง รวมทั้งสินค้ากลุ่มผักสดก็มีการปรับราคาขึ้นผิดปกติ โดยเฉพาะพริกขี้หนูจินดาจากสัปดาห์ก่อนราคา 30-40 บาท/กก. เป็น 90-100 บาท/กก. ผักคะน้า 20-22 บาท/กก. เพิ่มเป็น 28-30 บาท/กก. ผักกาดขาวปลี 25-28 บาท/กก. เป็น 32-35 บาท/กก. เป็นต้น

ด้านนายกิดดิวงศ์ สมบุญธรรม ที่ปรึกษาสมาคมผู้เลี้ยงสุกรอาเซียน กล่าวว่า ราคาเนื้อหมูขณะนี้แพงกว่าปีก่อนเล็กน้อย เพราะต้นทุนการเลี้ยงสูงขึ้น และยังตรงกับช่วงเทศกาลสารทจีน ทำให้มีความต้องการหมูสูงเกินปกติวันละ 4 หมื่นตัว แต่ยืนยันว่าราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มจะไม่ขยับขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหรือกก.ละ 71-72 บาท โดยราคาหมูหน้าเขียงที่เหมาะสมควรไม่เกิน 135-140 บาท

แหล่งข่าวจากวงการคอนซูเมอร์ให้ความเห็นว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการสินค้าอยู่ในภาวะที่ทำธุรกิจลำบากมาก เนื่องจากต้นทุนการผลิต การขนส่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปีมาแล้ว โดยเฉพาะค่าขนส่งที่มีการปรับราคามากกว่า 20-30% ขณะที่ต้นทุนการผลิตสินค้าก็ปรับเพิ่มขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบหลายอย่าง และมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นต่อเนื่อง แต่ผู้ประกอบการก็ไม่สามารถที่จะปรับราคาสินค้าขึ้นได้ อีกทั้งหากเป็นสินค้าที่อยู่ในตลาดเป็นอันดับสองแล้ว โอกาสที่จะปรับราคาขึ้นก่อนก็เป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าหากสินค้าที่อยู่เบอร์หนึ่งไม่ปรับราคาขึ้นก่อน เพราะมันจะถูกบังคับโดยกลไกตลาด แม้ว่าทางกระทรวงพาณิชย์จะขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการในการชะลอการขึ้นราคาสินค้าก่อนก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้ประกอบการหลายรายในสินค้าคอนซูเมอร์ก็ต้องใช้วิธีการตัดลดงบประมาณด้านการตลาด การทำโปรโมชั่น รวมทั้งการปรับลดบรรจุภัณฑ์ลดขนาดลงบ้าง เพื่อให้ต้นทุนนั้นต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการผงชูรส ให้ความเห็นว่า ในส่วนของผลิตภัณฑ์ผงชูรสนั้น ผู้ประกอบการยังคงที่จะต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นประมาณ 5-10% นี้อยู่ตอ่ไป แต่ไม่รู้จะได้อีกนานเท่าใด ซึ่งถ้าหากรับภาระไม่ไหวจริงๆก็คงต้องทำเรื่องเสนอไปยังกระทรวงพาณิชย์เพื่อจะขอปรับราคาขึ้นเช่นกัน แต่จะได้รับอนุมัติหรือไม่เป็นอีกเรื่องซึ่งผงชูรสเป็นสินค้าในข่ายจับตามอง ไม่ได้อยู่ในข่ายควบคุมราคา

นายศุภวุฒิ ไชยประสิทธิกุล ผู้จัดการใหญ่บริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า จากกำลังซื้อที่ไม่ดีของผู้บริโภคในขณะนี้ ทำให้สินค้าต่างจัดโปรโปรโมชั่นส่งเสริมการขายกันมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอาหารสด ซึ่งใกล้กับช่วงเทศกาลตรุษจีนพอดี แต่ยังไม่พบว่ามีสินค้าหรือซัพพลายเออร์รายใดทำการขอปรับราคาสินค้ามาแต่อย่างใด แม้วาต้นทุนจะเพิ่มขึ้นยังคงแบกรับต้นทนราคาเดิมอยู่ ซึ่งราคาสินค้าที่จำหน่ายในโฮมเฟรชมาร์ท และกรูเมต์มาร์เก็ตยังคงจำหน่ายราคาเดิม
กำลังโหลดความคิดเห็น