“คมนาคม” จับมือเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ผลักดันกฎหมายห้ามขายห้ามดื่มสุราบนรถไฟและสถานีรถไฟทั่วประเทศ ออกทันก่อนเทศกาลสงกรานต์ปี 57 เพื่อลดปัญหาอาชญากรรม ทะเลาะวิวาทและอุบัติเหตุบนรถไฟ หลังสำรวจพบ 85.95% เห็นว่าเป็นปัญหาใหญ่กระทบโดยตรงผู้โดยสาร
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์ “เดินทางสุขใจ บนรถไฟงดเหล้า” เพื่อกระตุ้นให้ผู้โดยสารและผู้ประกอบการงดขาย งดดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟและสถานีรถไฟ ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ ว่า เร็วๆ นี้กระทรวงคมนาคมจะมีการหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งดูแล พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 รวมถึงรับฟังความคิดเห็นและประเมินผลกระทบให้รอบด้านถึงการออกกฎหมายห้ามขายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟครอบคลุมถึงสถานีรถไฟทั่วประเทศ โดยที่ผ่านมาการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ออกประกาศควบคุมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟรวมถึงสถานีรถไฟ และห้ามการเร่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟ ซึ่งมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนออกมาแล้ว
ด้านเภสัชกร สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า แม้ขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายโดยตรงที่จะควบคุมการขายการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟ แต่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความรำคาญและอุบัติเหตุแก่ผู้โดยสาร จึงขอความร่วมมืองดขายงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟและสถานีรถไฟ โดยคาดว่าภายในต้นปี 2557 จะสามารถออกกฎหมายดังกล่าวและบังคับใช้ได้ ซึ่งควรจะแล้วเสร็จให้ทันเทศกาลสงกรานต์ปี 2557 หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งผู้ดื่มและผู้ขาย
ทั้งนี้ จากผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนผู้โดยสารรถไฟ ประกอบกับเรื่องร้องเรียนจากผู้โดยสารรถไฟ พบว่าผู้โดยสาร 85.95% มองว่าการขายและดื่มสุราบนรถไฟเป็นปัญหาใหญ่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้โดยสาร ทั้งการทะเลาะวิวาท สร้างความรำคาญ คุกคามทางเพศ ลักขโมย และเกิดอุบัติเหตุพลัดตกจากขบวนรถไฟจนเสียชีวิต หากมีการออกกฎหมายห้ามขายห้ามดื่มสุราบนรถไฟจะช่วยลดปัญหาความเดือดร้อนได้
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (25 ธ.ค.) ถือเป็นวันเริ่มต้นในการรณรงค์ให้ผู้โดยสารรถไฟงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟ รวมถึงบริเวณสถานีรถไฟทั่วประเทศ โดยกระทรวงคมนาคมร่วมมือกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อลดความเสี่ยงจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์